สำหรับการใช้รถบนท้องถนน ประกันรถ เราจำเป็นที่จะต้องรู้อะไรหล า ยๆอ ย่ าง เวลาที่เกิดเหตุหรืออะไรขึ้น มา เราควรที่จะมีความพร้อม ควรที่จะไม่ประมาท และในบางครั้งที่มีเหตุเกิดขึ้นเรามักจะเรียกประกัน แต่ถ้าหากเราไม่มีใบขับขี่จะต้องทำอ ย่ างไร
ในวันนี้เราจะมาบอ กข้ อมูลชี้แจงกันชัดๆให้ทราบกันถึงใบขับขี่ ว่ามีความจำเป็น มากแค่ไหน ใบขับขี่จำเป็นจะต้องมีในกรณีเดียว เมื่อเราเกิดเหตุ ทางเจ้าของประกันจะต้องเป็นคนซ่อมรถด้วยตัวเอง นอ กนั้นไม่จำเป็นจะต้องใช้ อาจจะยังมองไม่เห็นภาพสักเท่าไหร่ เรามีรายละเอียดเป็นข้ อๆให้ทำความเข้าใจกัน
1 กรณีที่สภาพรถไม่ตรงกับเอกส า รเช่น ทะเบียน เลขเครื่อง สีรถ หรือ ภ า ษีข า ด ก็สามารถทำเรื่องเคลมประกันได้ ไม่ต้องกังวลว่าประกันจะไม่รับดำเนินการให้ ยกเว้นประกันไม่สามารถหาห ม า ยเลขตัวถังได้ ประกันอาจต้องขูดเลขเครื่องเพื่อเช็คเลขเครื่อง
2 การดื่ ม แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ หากระดับเกิน 150 เป็นต้นไป ทางประกันจะไม่รับผิ ดชอบใดๆ ซึ่งหากคุณดื่มมา ให้พย าย ามหลีกเ ลี่ ย งการไปโรงพักเพื่อเ ป่ า แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ หากเป็นไปได้
หรือหากคุณต้องเข้าโรง พย าบาลก็ อ ย่ าให้โดนเจาะ เ ลื อ ด เพราะหากเจอปริมาณ แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ ที่สูงกว่ากำหนด ประกันจะไม่รับผิ ดชอบใดๆเลย ส่วนข้ อหาเ ม าแล้วขับ หากไม่มี อุ บั ติเ ห ตุ ร้ า ย แ ร งต่อผู้อื่น ก็จะโดนจั บและปรับต ามข้ อ กฎห ม า ย
3 หากเกิด อุ บั ติ เ ห ตุ แ ต่ ใบขับขี่เราหมดอายุก็สามารถใช้ยืนยันกับปร ะกั นได้ต ามปกติ แต่หากห า ยหรือโดนยึดก็ให้แสดงใบแจ้งความหรือใบสั่งแทน หากใบขับขี่ห า ยแล้วมีสำเนา ก็ให้นำสำเนามาแสดงด้วย โดยเฉพาะตอนที่เกิดเหตุเพื่อแสดงตัวตน หรือหากไม่มีก็ให้หามา จนกว่าจะนำรถเข้าซ่อม
4 หากคุณทำประกันชั้น 1 เอาไว้แล้วเกิดไปช น รถ คน หรือท รั พ ย์ สิ นเ สี ยห า ย ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ประกันจะเป็นฝ่ายรับผิ ดชอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเช่น กำแพงบ้าน ขอบข้างถนน ต้นไม้ ซึ่งประกันจะรับผิ ดชอบทั้งหมด
แต่ว่าหากคุณไม่มีใบขับขี่ ประกันจะทำการซ่อมรถให้คุณเท่านั้น จะไม่รับซ่อมให้กับคู่กรณีที่เป็นฝ่ายเ สี ยห า ย และถ้าเป็นประกันชั้น 2 หรือ ชั้น 3 หากคุณขับรถไปชนสิ่งใดก็ต าม
แต่ไม่มีใบประกันรถยนต์ก็จะรับผิ ดชอบทั้งหมด ยกเว้นประกันชั้น 2 จะไม่รับผิ ดชอบในเรื่องของรถห า ยหรือเหตุการณ์ที่เกิดจากอัคคีภั ยหรือไฟไหม้
5 หากโดนชนแล้ว ห นี ซึ่งถ้าเราทำประกันชั้น 1 หรือ 2-3 พลัสเอาไว้ แล้วเราจำทะเบียนคู่กรณีได้ให้เราเข้าแจ้งความที่สถานีใกล้กับที่เกิดเ ห ตุได้เลย จากนั้นให้โทรแจ้งป ระกั น มาจัดการทำเรื่องการเคลมให้
แต่ถ้าไม่เห็นทะเบียนคู่กรณี หากเป็นประกันชั้น 1 จะแจ้งเป็นการชนแบบไม่มีคู่กรณีเช่นชนกับสิ่งกีดขวางอ ย่ า งอื่นแทน ต ามสภาพของการชนที่น่าจะเป็นไปได้ สำหรับประกันชั้น 2-3 พลัส
6 ในกรณีเกิดเหตุกลางถนนและยังตกลงกันไม่ได้ว่าฝ่ายใดผิ ด ให้เราเคลื่อนย้ า ยรถได้เพื่อไม่กีดขวางทางจ ร าจ ร ไม่จำเป็นต้องรอประกัน มาถึง หรือหากมีตำรวจอยู่ในเหตุการณ์ก็ให้ตำรวจเป็นฝ่ายตัดสิน
จากนั้นจึงย้ า ยรถ หากสามารถตกลงกันได้ก็ไม่จำเป็นต้องไปโ ร ง พั ก ยกเว้น หากเกิดเหตุที่มีคู่กรณีมากกว่า 2 จะต้องไปโ รง พั ก และผู้ที่ผิ ดจะต้องเ สี ยค่าปรับข้ อหาขับรถโดยประมาท
7 การเคลมอะไหล่ทั่วไป หากเราต้องการเปลี่ยนเป็นอะไหล่แต่งพิเศษ เราสามารถทำได้ ถ้าเราสามารถตกลงกับอู่ที่เรานำรถเข้าซ่อมได้ โดยอู่จะทำการเสน ร า คาแ ล้วนำรถไปที่บริษัทเพื่อตกลงร า ค ากัน เราจะสามารถเลือ กการจัดซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ได้เอง โดยทางประกันจะทำการโอนเงินค่าซ่อมคืนให้เรา
8 สำหรับประกันชั้น 1 เราสามารถแจ้งเคลมขอเปลี่ยนสีรถได้ เพราะประกันจะยึดหลักที่ว่า เกิดเหตุจริงและสามารถเปลี่ยนสีทั้งคันได้เลย
9 หากมีการแต่งรถเสริมร า ค าแพง ประกันชั้น 1 จะจ่ายให้ทุกกรณีและต้องมีใบ ขั บขี่เท่านั้น หรือมีใบเสร็จที่ได้จากร้านตกแต่งรถมาเป็นหลักฐานยืนยันเพื่อให้ประกันทำการสลักหลังเพิ่ม
เพื่อคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติม แต่ถ้าเป็นประกันชั้น 2-3 จะไม่คุ้มครองในกรณีอุปกรณ์ตกแต่ง นอ กจากสาเ ห ตุจะเกิดจากการโดนปาดหน้าจนเ สี ยหลัก พุ่ ง ช นต้นไม้ หรือ กระแทกฟุต บ าต หรือ ตกน้ำ ประกันจะคุ้มครองให้เพราะไม่ใช่ความเ สี ยห า ยที่เกิดจากการปะทะกันระหว่างคู่กรณี
10 เมื่อเราได้รับใบแจ้งความเ สี ยห า ย หรือได้ใบเคลมมาแล้ว เราจะต้องตรวจสอบอย่ า งละเอียดก่อนที่จะเ ซ็ นเอกส า ร หากรายการไม่ครบหรือไม่ถูกต้อง
ประกันอาจจะไม่รับผิ ดชอบ และในกรณีที่รถมีแ ผ ล ช นเก่ามาอยู่แล้ว ทางประกันจะทำการบันทึกว่าเป็นแ ผ ล เ ก่ า ซึ่งจะจัดความคุ้มครองให้ครึ่งหนึ่ง โดยอีกครึ่งเราต้องจ่ายเอง
เรื่องราวของประกันภั ยรถ และ อุ บั ติ เ ห ตุ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอ ย า กให้เกิดขึ้นเพราะเ สี ยทั้งเวลาและเงินทอง โดยเฉพาะคนทำงานก็อาจต้องเ สี ยเวลาและเดือ ดร้อนเรื่องการเดินทาง
เมื่อรถเข้าอู่อีก แต่ความรู้ทั้ง 10 ข้ อที่เรากล่าวมานี้ จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจและรู้ในสิทธิของตัวเองที่ควรได้รับจากการทำประกัน เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้โดนโ ก งหรือเอาเปรียบจากอีกฝ่ายหรือบริษัทประกันได้
ที่มา krustory