8 คำพูดที่ไม่ควรพูด คนอื่นจะว่าเราไม่มีมารย าท

การใช้คำพูดในการสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญที่เราควรคำนึงให้มาก ควรคิดให้ดีก่อนที่จะพูดมันออ กมา บางเรื่องเราอาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่คนฟังเขามองว่าเราไม่ดีไร้มารย าท เพราะมารย าทที่ดีนอ กจากจะการยกมือไหว้แบบไทยๆเราแล้ว การพูดจาก็ถือว่าควรมีมารย าทเช่นกัน

วิ ธีการพูดที่ใช้เราบ่อยๆ สื่อถึงความเป็นตัวเราได้ดีที่สุด บางวิ ธีก็ช่วยกระชับความสัมพันธ์ ขณะที่บางวิ ธีอาจยิ่งทำร้ า ยความรู้สึกให้ย่ำแย่ ไปกว่าเก่า มาลองดูกันว่า คุณหรือคนรอบข้างคุณ กำลังพูดแบบนี้จนเป็นนิสัยอยู่หรือเปล่า หากใช่ก็ขอให้ล ดละเลิก เพื่อประคองความรู้สึกที่ดีระหว่างกันเอาไว้

1.พูดเปลี่ยนเรื่องกระทันหัน

ในระหว่างบทสนทนาเราควรตั้งใจฟังให้ดี ด้วยว่าคนอื่นเขาพูดเรื่องที่คุยค้างอยู่จบหรือยัง การตัดบทเปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นกระทันหัน นอ กจากจะทำให้คนอื่นๆเ สี ยอารมณ์แล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความไร้กาลเทศะ และความไม่ใส่ใจผู้อื่นของเราด้วย

2.พูดเรื่องไม่จริงที่ทำคนอื่นเดือ ดร้อน

จะมีอะไรแย่ไปกว่าการพูดโ ก ห ก จนคนที่ถูกพูดถึงตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากใจอีก การพูดกลับดำเป็นขาว ตีไข่ใส่สี จนเรื่องต่างๆแย่ลงกว่าเดิมนั้น ไม่ใช่การกระทำของคนที่หวังดี ต่อ กันแน่ๆหากยังอย ากมองหน้ากันติด และมีความรู้สึกดีๆต่อ กัน ก็ควรเลิกพฤติก ร ร มแบบนี้ ก่อนที่จะไม่เหลือใครให้คบ

3.พูดถึงความจำเป็นของตัวเองฝ่ายเดียว

ทำเรื่องนี้ให้พี่หน่อย พี่ทำคนเดียวไม่ไหวแล้วภาระพี่เยอะ ยกเอาความจำเป็น ของตัวเองมาก่อน ชักแม่น้ำสามสิบแปดสาย เพื่อโยนภาระของตัวเองให้คนอื่น การพูดจาทำนองนี้ อาจเรียกความเห็นใจได้ในระยะสั้น แต่หากทำจนเคยตัว จะกล า ยเป็นน่าเอือมระอาไป ทุกคนต่างมีภาระหน้าที่เป็นของตัวเองทั้งนั้น ควรเอาใจเขามาใส่ใจเรา และนึกถึงความจำเป็นของคนอื่นก่อนพูดด้วย

4.พูดถึงเรื่องในอ ดีตที่ผิ ดพลาดของค นอื่น

การยกความผิ ดพลาดของคนอื่น ขึ้น มาพูดถึงซ้ำๆ ทั้งที่หากคิดโดยใช้หลักเหตุผล ก็รู้ว่าพูดบ่อยไป ก็ไม่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอ ย่ างยิ่ง คือยกความผิ ดพลาดนั้น มาพูดต่อหน้าคนอื่นๆ การกระทำแบบนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้คนพูดดูเป็นคนจู้จี้ขี้บ่น ยังถือเป็นการบ่มเพาะ ทั้งความขุ่นเคืองและความอับอาย ให้แก่คนฟัง ซึ่งไม่ส่งผล ดี ต่อทั้งความสัมพันธ์ และประสิทธิภาพในการทำงานอ ย่ างแน่นอน

5.พูดปัดความรับผิ ดชอบ

อ๋อฉันไม่รู้เรื่องนะ อีกคนต่างหากที่ดูแลจัดการเรื่องนี้ การพูดปัดหรือโยนความรับผิ ดชอบ นอ กจากจะกระทบไปถึงคนที่เราโยนความรับผิ ดชอบไปให้แล้ว ยังทำให้ตัวเราถูกมองว่า ข า ดความน่าเชื่อถือ และพึ่งพาไม่ได้ไปด้วย โดยเฉพาะหากความรับผิ ดชอบนั้น เป็นส่วนหนึ่งในหน้าที่การของเรา

6.พูดเปรียบเทียบคนอื่นกับคนฟัง

เปรียบเทียบลูกตัวเองกับลูกคนอื่นที่เรียนเก่งกว่า เทียบลูกน้องอีกคน กับลูกน้องตัวเอง เปรียบเทียบคนอื่นกับแฟนตัวเอง จริงอยู่ที่คนเรามีความแตกต่างกัน แต่ไม่ใช่ทุกครั้ง ที่เราจะอย ากโดนเปรียบเทียบ ไม่ว่าคนพูดจะหวังดี อย ากพูดเพื่อเป็นแรงผลักดัน หรือพูดเพื่อ กดคนอื่นลงต่ำ สุดท้ายแล้วหากพูดแบบนี้จนเป็นนิสัยไม่ว่ากรณีไหนก็ไม่น่าฟังอยู่ดี

7.เมินสิ่งที่อีกคนพูดกับเรา

ข้ อนี้แม้ไม่ใช่วิ ธีพูด แต่กลับเป็นการแสดงออ กที่ทำร้า ยจิตใจคู่สนทนามากที่สุด หากเราไม่ได้กำลังทำธุระอื่น ควรรับฟังสิ่งที่คู่สนทนาพูด หรือหากเรากำลังอยู่ ในอารมณ์ที่ขุ่น มัว ก็ควรจะตอบไปต ามสมควรบ้าง เพื่อรั ก ษ าน้ำใจของกันและกัน เอาไว้ไม่มีใครหรอ ก ที่อย ากถูกเมินคุณเองก็เช่นกัน

8.พูดแ ช ร์ค ว า ม ลั บของอีกคนให้คนอื่นฟัง

ความไว้ใจไม่ใช่สิ่งที่จะสร้างกันได้ ในชั่ วข้ามคืน กว่าเราจะเปิดใจพูดเรื่องลับๆ หรือเรื่องที่ตัวเราไม่สบายใจ และไม่อย ากให้คนอื่นรู้ ให้ใครสักคนฟังได้ ก็ต้องมีความไว้ใจกันพอสมควร ลองคิดดูว่าหากค ว า ม ลั บ ที่ว่าถูกคนอื่น ที่เราไม่ได้สนิทใจรู้เข้า จะรู้สึกแย่แค่ไหน หากไม่อย ากเปลี่ยนจากคนดีๆ เป็นคนแย่ๆก็อ ย่ าเอาเรื่องที่คนอื่นไม่อย ากให้ใครรู้ไปพูดต่อ

ที่มา goodlifeupdate  stand-smiling