5 สิ่งที่คนนอ กใจคนรักมักจะได้พบเจอ

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ผลของการนอ กใจ ที่คนหลา ยใจมักจะได้พบเจอ กับบทความ 5 สิ่งที่คนนอ กใจคนรักมักจะได้พบเจอ ไปดูกันว่าคนนอ กใจมักจะได้พบเจออะไรบ้าง

ผลของการกระทำที่นอ กใจคนที่เรารัก

1 โ ร ค ภั ย มาเยือนโดยไม่รู้ตัว

แน่นอนว่าการมักมากใน ก า ม ของคนผู้นี้อาจทำให้มีเปอร์เซนต์สูงในการ เ สี่ ย ง ติดต่อ โ ร ค เกี่ยวกับ เ พ ศ และอาจจะมี โ ร ค ที่เกี่ยวกับความ เ ค รี ย ด เพราะต้องหาวิธีปิดบังสามีหรือภรรย าของคุณ และคนรอบข้างไม่ให้รู้เรื่องโสมมนี้

2 พลัดพรากจากคนที่รักจริง

ความหลอ กลวง ไร้ซึ่งความจริงใจ ของของคนผู้นี้ มิใช่เพียงแค่ภรรย า-สามี หรือลูกๆ เท่านั้น ที่ถอยห่างคนที่จริงใจกับคนผู้นี้ก็ไม่มีอีกเช่นกัน จะต้องทนทุ ก ข์กับความเหงาเดียวดาย แม้ในช่วงที่ต้องการ คนดูแลก็จะมองไม่เห็นใครเลยแม้แต่คนเดียว

3 ชีวิตไม่เจริญรุ่งเรือง

ในย ามที่คนผู้นี้มีปัญหา จะไร้ซึ่งคนยื่น มือ เข้ามาช่วยเหลือเจือจุน หรือ แ ย่ กว่านั้นอาจโดนหลอ กเงินแล้วหนีห า ย การพูดจาสำหรับคนผู้นี้ก็จะหาวามน่าเชื่อถือไม่เจอ หน้าที่การงานก็จะดิ่งลงเหว เจ้านายหรือลูกน้องก็จะหมดศรัทธาไปโดยปริย าย

4 หากมีลูก ลูกจะไม่รักคุณ

ถ้าลูกทราบเรื่อง แน่นอนว่าเขาจะรับไม่ได้ ไม่เชื่อฟังคุณ และอาจจะทำให้เขากลา ย เป็นคน มีปัญหาสร้างปัญหาให้แก่ผู้อื่น

5 อาจถูกลอบปอง ร้ า ย

แน่อนว่าอุปนิสัยของคนผู้นี้ชอบหลบซ่อน โ ก ห ก และการคบชู้นี้ อาจจะสร้างความโ ก ร ธเคืองให้แก่ใครหลา ยคนรอบตัวคุณ ซึ่งเค้า อาจจะทนไม่ไหวในพฤติกร ร มอาจเกิดการกระทำที่ข า ดสติต่อตัวคุณก็เป็นได้

บทเรียกจิตสำนึกท่องให้ขึ้นใจก่อนคิดจะนอ กใจ

1 ถามตนเองว่า พร้อมจะยอมรับผลที่เกิดขึ้นได้หรือไม่

2 ถามตนเองว่า พร้อมที่จะรับผลที่จะต ามมาไหวไหม

3 ถามตนเองว่า มั่นใจหรือไม่ว่าคุณจะควบคุมสถานการณ์ได้

4 ถามตนเองว่า พร้อมหรือไม่ ถ้าลูกเมียรู้ แล้วทิ้งคุณไป อยู่โดยไม่มีพวกเขาได้ไหม

5 ถามตนเองว่า พร้อมหรือไม่ที่จะทำชื่อเสียงความดี

และเกียรติยศของตนเองที่สะสมมาตลอ ดชีวิตเพื่อทำสิ่งนี้หรือไม่ เชื่อว่าทุกคนที่อ่านจบ คงตระหนักได้ถึงผลที่จะต ามมานั้น ร้ า ย แ ร ง เพียงใด คุณพร้อมที่จะ เ สี่ ย ง กับผลที่ต ามมาไหมละคะ

ขอยินดีกับท่านที่ไม่เคยคิดนอ กใจคนรักตัวเอง แต่ผู้ที่คิดหรือผู้ที่ทำไปแล้วคุณสามารถปรับเปลี่ยนตนเองได้ ถ้ายังไม่สายเกินไป ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ

ที่มา ท่าน ว. วชิระเมธี, theasianparent, verrysmilejung