วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อน ๆ ไปเรียนรู้คำพูดที่ไม่ควรพูดกับลูก กับบทความ 14 คำพูดที่ลูกไม่อย ากได้ยินจากปากพ่อแม่ ไปดูกันว่ามีคำพูดอะไรบ้าง
1 หยุดกวนสักทีได้ไหม
บางครั้งคุณแม่อาจต้องการเวลาส่วนตัวบ้าง แต่หากคุณแม่บอ กลูกว่า อย่ ามายุ่งอยู่บ่อยๆ ลูกคุณอาจจะไม่คุยกับคุณแม่อีกต่อไปเลยก็ได้นะ ยังไงลองอธิบายให้ลูกฟังถึงเหตุผลดีๆ อย่ างเช่น คุณแม่ขอเวลาทำธุระส่วนตัวสัก 2 – 3 นาทีได้ไหม งี้แล้วแม่จะคุยกับหนูอีกที
2 เดี๋ยวตีเลย
ผู้ปกครองหล า ยๆ คนคิดว่า การลงไม้ลงมือ จะทำให้ลูกเชื่อฟังได้ แต่หารู้ไม่ การตีเขา ลงโทษเขาแบบหนักๆ อาจไม่ได้ส่ งผลดี แต่ใช้ได้ผลแค่ในช่วงแรกๆ เท่านั้น แล้วสุดท้ายก็จะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
3 หุบปากแล้วอยู่เงียบๆ ไปซะ
เด็กในวัยที่กำลังหัดพูด มักจะพูดตลอ ดเวลา อาจจะพูดผิดถูกบ้าง หากเขาพูดจาไม่เหมาะสม คุณแม่ควรจะสอนเขาดีๆ แทนที่จะบอ กว่าให้หุบปาก แบบนั้นน่ะลูกจะเก็บกด ไม่กล้าแสดงออ ก และอาจมีพัฒนาการทางการพูดที่ช้าลงด้วย
4 ทำไมทำตัวน่ารำคาญแบบนี้
คำนี้จะบั่นทอนความรู้สึก และความเชื่อมั่นของลูกได้ อาจจะทำให้เขาเริ่มไม่มั่นใจว่า ตกลงแล้ว พ่อแม่รักเขาอยู่ไหม ความมั่นคงในจิตใจของลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นพื้นฐานต่อไปในอนาคตด้วยนะ
5 ต่อว่าลูกต่างๆ นานา
เพราะการบอ กว่าเขาเป็นคนซุ่มซ่าม นิสัยไม่ดีนั้น มันไม่ได้ช่วยให้เขามีความมั่นใจ หรือรู้สึกมีคุณค่ามากขึ้นเลย แม้ว่าคุณจะไม่ได้พูดกับเขาโดยตรง แต่สุดท้ายแล้วลูกคุณก็จะเชื่อว่า เขาเป็นคนที่แย่เหมือนที่คุณแม่พูดจริงๆนั่นแหละ
6 ทำแบบนี้เดี๋ยวพ่อแม่ไม่รักนะ
คำว่าไม่รัก จะมีผลกระทบต่อความรู้สึกภายในใจลูกอย่ างมาก แม้จะคิดว่ายังไง ลูกก็รู้อยู่แล้วว่าคุณแม่รักเขา แต่ลึกๆ ในใจนั้น คำพูดนี้บั่นทอนความรู้สึกเขามากจริงๆ
7 ทำตัวเป็นเด็กขี้แพ้ไปได้
การที่เรียกลูกว่าเด็กขี้แพ้ จะทำให้ลูกคุณอาจรู้สึกละอายใจ คุณแม่ควรฝึกให้ลูกรู้จักการฝึกฝน ฝึกความพย าย าม จะดีกว่าการที่คุณแม่พูดทำร้ า ยจิตใจลูก แทนที่ลูกจะมีความพย าย ามขึ้น กลับยิ่งทำให้ลูกมีพฤติก ร ร มที่ถดถอย หรืออาจข า ดความเชื่อมั่น และไม่กล้าที่จะตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเอง
8 ล้อเลียนข้อด้อย
เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับคุณพ่อคุณแม่เลยล่ะ ไม่ควรล้อเลียนหรือเรียกลูกด้วยชื่ออื่นๆ เลย เพราะมันอาจทำให้ลูกสูญเสียความมั่นใจ เช่น อ้วน, แห้ง, สิว อะไรงี้
9 เป็นลูกผู้ช ายหน่อยสิ!
คำนี้ก็ไม่ควรที่จะใช้กับลูก นอ กจากจะปิดกั้นพัฒนาการของเขาแล้ว ยังทำให้ลูกสับสน มากกว่าเดิม ว่าการเป็นลูกผู้ช ายต้องทำยังไง หรือยังไงก็ต าม คุณแม่ควรอธิบายเพิ่มว่าลูกควรทำอะไรบ้าง และทำเพราะอะไร เขาจะได้รู้
10 รอให้พ่อรู้ก่อนเถอะ
เพราะบางทีคุณแม่มักจะชอบขู่ เช่น เดี๋ยวรอให้พ่อรู้ก่อนเถอะ และปัญหาก็คือ เมื่อลูกโตขึ้น เขาก็จะรู้ว่าคุณแม่ก็แค่ขู่แหละ ไม่ทำอะไรเขาหรอ ก มันก็อาจกล า ยเป็นว่า เขาไม่เชื่อฟังคุณแม่อีกต่อไป
11 แม่ตัดหนูแล้วนะ
เมื่อคุณแม่รู้สึกโ ก ร ธมากๆ อาจเผลอพูดกับลูกไปว่า แม่ตัดแล้ว แต่ในความเป็นจริง ลูกยังต้องพึ่งพิง อาศัยอาหาร ความรัก จากคุณแม่คุณพ่ออยู่ ฉะนั้น หากพูดไปแล้ว อาจจะเป็นการทำร้ า ยจิตใจ ความรู้สึกของลูก ไปจนถึงทำล า ยความสัมพันธ์ก็เป็นได้
12 ทำไมไม่เหมือนลูกคนอื่นเขาเลยนะ
แม่ไม่ควรเอาลูกตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เราควรเข้าใจว่า เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน พย าย ามทำให้ลูกรู้ว่า พวกเขาพิเศษกันคนละแบบจะดีกว่านะ
13 ชอบออ กคำสั่ง บังคับให้ทำ
หน้าที่ของคุณแม่คือ ควรสอนให้ลูกเชื่อฟังในสิ่งที่เราพูด แต่ยังไงก็ไม่ควรที่จะพูดลอยๆ ออ กมา โดยไม่มีเหตุมีผล และไม่อธิบายอะไรเพิ่ม เพราะลูกจะมีความเคยชินแบบทำต ามไปวันๆ
14 ไม่น่าเชื่อว่าลูกจะคิดเรื่องไร้สาระอย่ างนี้
ตอนที่ลูกเดินกระแทกเท้า หรือเดินชนประตูแบบไม่ได้ตั้งใจนั้น เขาอาจมีเรื่องกังวลใจอยู่ เมื่อคุณแม่ไปต่อว่า ลูกอาจจะรู้สึกเหมือนถูกปฏิเสธ ดูเป็นคนไร้ค่า ทั้งยังต้องการแยกตัวออ กห่างจากพ่อแม่มากขึ้น ฉะนั้น ควรรอจังหวะที่เหมาะสมก่อน แล้วค่อยพูดว่า แม่อาจเห็นเรื่องนี้ในมุมมองที่ต่างออ กไป ไหนลองเล่าเรื่องของหนูใหม่อีกครั้ง แล้วเรามาหาข้อสรุปด้วยกันอีกที แบบนี้ก็จะดีขึ้นกว่าเดิม เห็นไหมว่าบางคำพูดมันช่างอ่อนไหว ก่อนจะพูดอะไรนั้นก็ขอให้ได้คิดดีๆ เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว
ที่มา k i a d t i k u n, p r o f e s s i o n – j 5 5