13 นิสัยของผู้หญิงที่อนาคตจะร ว ย

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้นิสัยของผู้หญิงที่ทำแล้วจะทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จ และอนาคตพบเจอแต่ความสุขสบาย กับบทความ 13 นิสัยของผู้หญิงที่อนาคตจะร ว ย ไปดูกันว่าผู้หญิงยุคใหม่จะต้องมีนิสัยแบบไหนติดตัวบ้าง

1 ออ กกำลังกายเป็นประจำ

76% ของคนร ว ยออ กกำลังกายอย่ างน้อย 30 นาที ทุกวัน เพราะ เขารู้ว่าการออ กกำลังกายไม่ได้ดีต่อสุขภาพ ร่างกายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สมองตื่นตัวอีกด้วย

2 เข้าสังคมกับคนแบบเดียวกัน

ซึ่งคนแบบเดียวกัน หมายถึงคนที่มีเป้าหมาย มองโลกด้านบวก มีความกระตือรือร้น จะว่าพวกเขาเลือ กคบก็ได้แต่เพราะพวกเขารู้ว่า เวลามีจำกัด จะคบทุกคน ทุกเวลาไม่ได้ แถมการคบคนที่คิดลบ ช่างนินทา แต่ไม่ลงมือทำ ก็กลับจะยิ่งบั่นทอนกำลังใจ และ หากเราอย าก จะอยู่ในสังคมคนร ว ยสร้างเองจริงๆ เราไม่จำเป็น ต้องร ว ยก่อนก็ได้ แค่เราต้องมีพื้นฐาน ทัศนติ ด้านบวก มีแนวคิดก้าวหน้า และมีความรู้จริงแบบนี้ ใครๆก็อย ากคุยด้วย อย ากทำธุรกิจด้วย

3 พุ่งชนเป้าหมาย

คนที่มีเป้าหมาย และมุ่งหน้า เดินสู่เป้าหมาย อย่ างไม่ท้อล้ม แล้ว ก็ลุกต่อให้เดินไปได้ก้าวสองก้าวแล้วล้มก็ลุกมาเดินต่อ สุดท้าย จะก็ไปถึงเป้าหมายได้ และคนร ว ยสร้างเองจะตั้งเป้าหมายส่วนตัว ไม่เอาชีวิตของคนอื่น มาลอ กเป็นเป้าหมายของเขา

4 ตื่นเช้า

คนร ว ยเกือบ 50% มีเวลาตอนเช้ามืด อย่ างน้อย 3 ชั่ วโมง ก่อน เริ่มทำงานจริง ( เช่นเริ่มงาน 8 โมงก็ตื่นตี 5 ) เพราะตื่นเร็วกว่าก็มี เวลา คิดและทำสิ่งต่างๆ ได้มากกว่ากล า ยเป็นว่าคนตื่นเช้า สามารถ ‘ควบคุม’ ปัจจัยเวลา ได้ส่วนคนที่ตื่น สายทำอะไรช้า ก็จะถูกเวลาไล่กวดอยู่เสมอ

5 มีแหล่งรายได้หล า ยทาง

65% ของคนร ว ย ( ในกลุ่มที่ทำการศึกษา ) ไม่ได้มีรายได้ จากแหล่งเดียวแต่มีจาก 3 ช่องทางเป็นอย่ างน้อย อย่ าง เช่น บ้านหรือคอนโด ให้เช่ากำไรและเงิ นปันผล จากหุ้น และ การร่วมหุ้นทำธุรกิจ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเริ่มจากสิ่งใหญ่โต ใช้เ งิน มากเกินตัว แต่สามารถค่อยๆริเริ่ม ลองทำและ ต่อยอ ดขยับขย ายไปเรื่อยๆ

6 แสวงหาที่ปรึกษาของชีวิต

ที่ปรึกษา ไม่จำเป็นต้องอายุ มากกว่า แต่สามารถเป็นเพื่อน ที่มีประสบการณ์ ในบางด้าน มากกว่าเคยทำบางอย่ าง สำเร็จ มาก่อน และที่ปรึกษาไม่ได้ ช่วยพัฒนาชีวิตคนร ว ยเฉพาะด้านธุรกิจ หรือ การเงิ นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ชีวิตส่วนตัวมีความสุขผ่านพ้นปัญหา หล า ยรูปแบบ ที่ย ากๆ ได้คือ คนร ว ยจะไม่คิดเอง ทำเอง ด้วยตัวคนเดียวแต่ยินดี ให้คน มาช่วยคิด ช่วยแนะนำ สิ่งดีๆอยู่เสมอ

7 คิดบวก

ผู้ทำการศึกษา เรื่องนี้ย้ำว่า การคิดบวกเป็นสุดยอ ด ปัจจัยสู่ความ สำเร็จ ของคนร ว ยสร้างเอง ‘ทุกคน’ซึ่งปัญหาของคนส่วนใหญ่คือ ไม่ค่อยสำรวจจิตใจตัวเองว่า เป็นคนคิดลบหรือคิดบวก ซึ่งคนร ว ย จะมีความรู้สึกตัวตนอยู่เสมอว่า จะไม่ปล่อยให้ ตัวเองตกลง ไปในหลุมของการคิดลบ

8 ไม่เห่อต ามกระแสมหาชน

แต่คนร ว ยจะสร้างกระแสของตัวเองขึ้น มา และ ชักชวนคนรอบข้างให้เดินต าม

9 มีมารย าทดีทำตัวเหมาะสม

คนร ว ย รู้ว่าในโอกาสไหน ควรทำอะไร เช่น ส่ งจดหมาย ขอบคุณ เมื่อได้รับความช่วยเหลือ กล่าวแสดงความยินดี เมื่อเพื่อนประสบความ สำเร็จ ร่วมโต๊ะอาหาร อย่ างสำรวมและแต่งตัวเหมาะสม ไม่น้อยเกิน และไม่มากเกิน ( อะไรที่เกินพอ ดีคือไม่ดี ) ส่วนหนึ่งก็เพื่อรั ก ษ าความ สัมพันธ์ แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะเขารู้จักใจเขาใจเรารู้ว่า คือ ทุกคน มีชีวิตจิตใจ ต้องการกัลย าณมิตรและการจะให้คนอื่นรู้ว่า เราคือ กัลย าณมิตร คือต้องแสดงออ กไม่ใช่แค่คิดในใจ ลองคิดดูว่า มีคนแสดง ให้เรารู้ว่า เขารู้สึกดีกับเรา ขอบคุณ เราชื่นชมเราเราก็คงยินดีเช่นกัน แต่ถ้าทุกคน คิดดีกับเราหมด แต่ไม่เคยบอ ก ไม่เคยแสดงออ กเราจะไม่รู้แต่แรก เลยด้วยซ้ำว่า เรามีคนแบบนี้อยู่รอบตัว

10 อ่า นหนังสือเป็นประจำ

88% ของคนร ว ย อ่ านหนังสือ อย่ างน้อย 30 นาที ทุกวัน และเป็น การอ่า นเพิ่มความรู้เพื่อเอาไปใช้ต่อยอ ดไม่ได้อ่า นหนังสือหมวดบันเทิง

11 ยินดีช่วยคนอื่นให้สำเร็จไปด้วย

ซึ่งคนร ว ยสร้างเอง ก็จะรู้จักเลือ ก ช่วยเช่นกัน ซึ่งไม่ใช่แบบ เล่นพรรค เล่นพวกล้วนๆไม่ใช่เห็นแก่ตัวขั้นรุนแรง แต่เพราะเขารู้ว่า ไม่สามารถช่วย ทุกคน ทุกเวลาได้เพราะแบบนั้นก็จะไม่มีเวลาไปช่วย คนที่มีศักยภาพมากพอ ที่จะประสบความสำเร็จผลงานโดยรวม ก็จะออ กมากลางๆหรือต่ำ เพราะถ้าช่วยเหมาเข่งคนเก่ง ก็จะ ได้รับเวลา/ทรัพย ากรไม่มากพอ ส่วนคนที่กลางๆเบๆ ต่อให้ช่วยมากเท่าไร เขาก็ไปได้แค่นั้น

12 ให้เวลากับตัวเองในการคิดใคร่ครวญ

คนร ว ยสร้างเอง จะใช้สมองคิดใคร่ครวญ การงานต่างๆ เงียบๆ คนเดียวอย่ างน้อย 15 นาทีทุกวันซึ่งเรื่องที่คิด ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับ เงิ นทองธุรกิจ ล้วนๆ แต่เขา ยังคิดเรื่อง การวางแผนชีวิต โดยรวมและการดูแลสุขภาพเช่นกัน

13 ชอบฟังเสียงสะท้อนจากผู้คน

แม้แต่คน ที่ร ว ยแล้ว ก็ไม่ได้คิดถูก ทำถูกทุกเรื่อง ทุกครั้ง และ เขารู้ว่า ถ้าไม่เปิดใจ รับฟังความเห็นก็ไม่มีทางรู้ตัว ( ได้อย่ างทันท่วงที ) ว่าอะไรกำลังผิดทาง อะไรที่คนไม่ชอบ เขาจึงแสวงหาความเห็นจากคนรอบข้าง ทั้งเพื่อนคู่ค้า และลูกค้า แล้วถ้าฟังแล้ว มีเหตุผลจริง ก็ยอมรับพร้อมกับเอามาปรับปรุง ให้การงานต่างๆกลับเข้าเส้นทางที่ถูกต้องส่วนคนที่กลัวความเห็น

จากคนอื่น ก็เสี่ยงมากที่จะล้ม ทั้งยืนเพราะไม่รู้ตัว/รู้ช้าว่ากำลัง เดินลงเหว ( และส่วนใหญ่ก็จะเดินลงเหว ) คนร ว ยก็สามารถ หลงเดินไป เส้นทางที่พาไปลงเหวได้เช่นกันแต่เค้ารับฟังเสียง เตือนว่านั่นน่ะผิดทาง อย่ างที่บอ กไว้แต่แรก ว่าคนร ว ยสร้างเอง ก็เกิดมาเป็นคนธรรมดา แต่ด้วยทัศนคติ ที่ใช่และการกระทำที่ใช่

( ผ่านการต่อสู้ฝ่าฟั นและปรับตัว ) คนธรรมดาก็ร ว ยได้ สำเร็จ ได้ด้วยตัวเอง และถ้าเรา เชื่อว่าทัศนคติที่ใช่นั้น’สร้างได้’ ไม่ต้องลุ้น ให้มีติดตัวมาแต่เกิด แบบพรสวรรค์ เรา ก็สามารถสร้างทัศนคติที่ใช่ของเราเองได้เช่นกัน

ที่มา แค่ยิ้ม, 108resources