ปัจจุบันนี้การท่องเที่ยวสถานที่เชิงนิเวศน์เป็นที่นิยมมากสำหรับใครหล า ยๆคน จึงทำให้ต้องขับรถยนต์ขึ้นเขากันเป็นจำนวน มาก วันนี้เราจึงอย ากที่จะแนะนำวิธีการขับรถขึ้นลงเขาอย่ างปลอ ดภั ยให้กับทุกๆ คน กับบทความ วิ ธีขับรถยนต์ขึ้นลงเขา ที่มือใหม่ควรรู้ไว้ ไปดูกันว่าจะต้องขับรถอย่ างไรให้ปลอ ดภั ยทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมทาง
การขับรถทางไกลส่วนใหญ่นั้น มักจะต้องเจอ กับเส้นทางขึ้นลงเขาอยู่บ่อยครั้ง เพราะใช่ไหนถนนหนทางทุกแห่งจะเป็นทางเรียบ ขับง่ายวิ่งสบายเสมอไป ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ที่มักจะต้องขับรถทางไกลอยู่บ่อยครั้งนั้นก็มักจะคุ้นเคยกับเส้นทางขึ้นลงเขาเป็นอย่ างดี แต่สำหรับหล า ยคนที่อาจจะไม่ค่อยได้ขับรถในเส้นทางขึ้นลงเขานั้น อาจเป็นเรื่องที่ย าก โดยมีเทคนิคในการขับขี่ได้ง่ายขึ้น สามารถนำไปปฏิบัติต ามได้ ดังนี้
การขับรถขึ้นเขา
1 รู้ถึงเส้นทางที่จะเดินทางไป ว่ามีความชัน มากน้อยเพียงใด และต้องเช็คตรวจสอบสภาพของรถที่ขับขี่ ทั้งหมอน้ำ แบตเตอรี่ ลมย างรถ เมื่อเป็นทางชันควรใช้เกียร์ D1 D2 เท่านั้น แล้วเมื่ออยู่ในเส้นทางปกติสามารถใช้เกียร์ธรรมดาอย่ างเกียร์ D แทน
2 ในระหว่างขับรถขึ้นเขานั้น ให้เหยียบคันเร่งต ามจังหวะ โดยประคองความเร็วของเครื่องยนต์ให้เสมอ กัน เพื่อไม่ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก หรือ กระช า ก เค รื่ องยนต์เกินไป
3 ความเร็วในการขับรถขึ้นเขาที่เหมาะที่สุดคือ 40-60 กิโลเมตรต่อชั่ วโมง โดยหมั่นรัก ษาความเร็ว และระยะห่างกับรถคันหน้า เพื่อจะได้เบรคทันหากมีเมื่อเหตุการณ์ฉุ ก เฉิ น
4 เว้นระะยะห่างกับรถคันหน้าอย่ างน้อย 30-50 เมตร
5 ถนนขึ้นเขาส่วนใหญ่มักจะคดเคี้ยวเป็นรูปตัว S เมื่อมั่นใจว่าไม่มีรถสวน ให้ถอนคันเร่งแล้วรัก ษาความเร็วไว้ ให้ช้าที่สุด เพื่อป้องกันอั น ตราย
6 ทางขึ้นเขาส่วนใหญ่ทางมักจะมีสันเขาบังสายต าบ่อยครั้ง จึงควรขับขี่ด้วยความระมัดระวังและส่ งสัญญาณให้กับผู้ร่วมเส้นทางได้ทราบ เช่น หากต้องการแซงควรบีบแตรให้สัญญาณว่าเราต้องการแซงไป และดูรถที่สวน มาด้วยเช่นกัน
เทคนิคขับรถ ลงเขา
1 ห้ามเข้าเกียร์ว่างหรือเกียร์ N ในทางลงเขาเด็ดข า ด อย่ าเข้าใจผิดว่าจะทำให้รถไม่ต้องเหยียบคันเร่ง แต่นั่นเท่ากับเพิ่มรอบรถให้มากขึ้นเครื่องยนต์จะทำงานหนัก และควบคุมเบรคได้ย าก อาจเกิดอั นต รายได้
2 การเบรครถในขณะที่ขั บ ล ง เ ข า ให้แตะเบรคเป็นจังหวะ เพื่อให้รถค่อยๆ เคลื่อนตัวช้าและชะลอความเร็วลง อย่ าเหยียบเบรคค้าง เพราะอาจทำให้ผ้าเบรครถไหม้ได้
3 ไม่จำเป็นต้องเหยียบคันเร่งในทางลงเขา แต่ให้เข้าเกียร์ D D1 D2 ไว้ เพื่อมั่นใจว่าจะควบคุมรถได้
4 ใช้ความเร็วเพียง 20-40 กิโลเมตรสำหรับทางลงเขาแบบโค้งหักศอ ก ที่มีความลาดเอียงมาก
5 ไม่ควรแซงรถคันหน้าในทางลงเขา โดยเฉพาะกับรถบรรทุก เพราะรถเหล่านี้มีอัตราเร่งที่สูงกว่ารถปกติ อาจเกิดอั นต รายได้
เทคนิคง่ายๆ เหล่านี้จะทำให้การขับขี่ขึ้นลงเขาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ ควรทำต ามกฎจราจร และป้ายบอ กทางต่างๆ รวมถึงมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทางด้วย
ที่มา krustory