วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิการใช้ชีวิต กับบทความ ความดีของคนอยู่ที่จิตใจ ไม่ใช่รูปร่างหน้าต า ไปดูกันว่าทำไมความดีของคนเราถึงไม่ได้วัดกันที่รูปร่างหน้าต า แต่วัดกันที่จิตใจ
นี่เป็นเรื่องราวของแม่เฒ่าเก็บขยะข า ยคนหนึ่ง ในละแวกนี้ ทุกคนต่างรู้ว่า แม่เฒ่าคนนี้ เป็นคนที่น่าสงสารที่สุด สามีเสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่ม ทิ้งลูกช ายไว้ให้แม่เฒ่าเลี้ยงดูคนเดียว แม่เฒ่าเลี้ยงดูลูกช ายจนเติบโตเป็นหนุ่ม มีงานทำที่มั่นคง จนเข้าสู่วัยที่ต้องมีครอบครัว หลังแต่งลูกสะใภ้เข้าบ้านได้ 2 ปี เธอก็คลอ ดหลานสาวให้ 1 คน แต่ความสุขเปี่ยมล้นนั้น มีแค่ช่วงสั้น ๆ เพราะ 3 ปีต่อมา ลูกช ายแม่เฒ่าถูกตรวจพบว่า เป็นโ ร คเบาหวานระยะสุดท้าย
การรั ก ษ าเพียงแค่ยืดชีวิตไปได้อีกระยะหนึ่ง ลูกสะใภ้รู้ว่าอนาคตคงลำบากแน่ เลยฉวยโอกาสขอหย่ ากับลูกช าย ทิ้งหลานสาวอายุ 3 ขวบ พร้อมกับลูกช ายที่ป่ ว ยหนัก ให้ตกเป็นภาระของแม่เฒ่า ความย ากจนทำให้ข า ดการรั ก ษ าอย่ างจริงจัง โ ร คของลูกช ายทรุดหนักลงเรื่อย ๆ 3 ปีต่อมา แม่เฒ่าต้องยอมรับคำพังเพยที่พูดว่า ‘โชคร้ า ยที่สุดของคน คือ ผมขาวต้องส่ งผมดำเดินทางไปสวรรค์ก่อน’
เวลานี้แม่เฒ่าอายุย่ างเข้า 70 ปีแล้ว จะออ กไปหางานทำก็ไม่มีใครรับ ต้องอาศัยเก็บของเก่าต ามถังขยะข า ยยังชีพ และส่ งเสียเลี้ยงดูหลานสาวคนเดียวให้รอ ด เช้ามืดของทุกวัน แม่เฒ่าจะเข้าไปเก็บเศษผักต ามแผงผักในตลาดสด เพื่อมาเป็นอาหารประจำวัน พอฟ้าสาง แม่เฒ่าจะง่วนอยู่กับการคุ้ยถังขยะ เพื่อหาของที่มีค่าไปข า ย ตกเย็นจะสะพายถุงเศษขยะไปที่จุดรับซื้ อ เพื่อแลกเป็นเงินกลับบ้าน วันไหนโชคดีมาก ๆ แม่เฒ่าจะข า ยได้เงินถึง 100 หยวน
แม่เฒ่ามีความผูกพันกับหลานสาวยิ่งชีวิต นางมักคิดว่า ขอให้ตัวเองอายุยืนอีกหล า ยปี เพราะหากนางต า ยเร็วเกินไป หลานสาวคงต้องเป็นเด็กกำพร้าอีกครั้ง เช้าวันนี้ หลานสาวบอ กแม่เฒ่า ว่า ‘อาม่า คุณครูทวงค่าเทอมอีกแล้ว หากไม่จ่าย ครูบอ กว่าจะไม่ให้สอบค่ะ’ แม่เฒ่าถามหลานสาวว่า ‘ทั้งหมดเป็นเงินเท่าไหร่ล่ะ’ ‘500 ค่ะ อาม่า’ หลานสาวตอบ
แม่เฒ่าล้วงมือลงไปในถุงผ้าที่สะพายติดตัว หยิบเศษเงินออ กมา ส่วนใหญ่เป็นใบละ 10 ถึง 20 หยวน นับอย่ างตั้งใจจนครบ 500 หยวน จึงยื่นให้หลานสาว ‘เอาไป เก็บให้ดีนะ ถึงโรงเรียนแล้วรีบเอาให้ครูก่อน แล้วตั้งอ กตั้งใจเรียนนะ’ หลานสาวรับเงินด้วยสีหน้าเบิกบานใจ ตอบรับคำของแม่เฒ่า แล้วรีบวิ่งไปโรงเรียนทันที เงิน 500 หยวนสำหรับคนทั่วไปไม่ได้มากมาย แต่สำหรับแม่เฒ่าแล้ว ต้องใช้เวลาหาเกินครึ่งเดือนทีเดียว
หิมะแรกของปีนี้เริ่มโปรยปรายลงมาแล้ว บนศีรษะและหลังที่คุ้มงอของแม่เฒ่า ขาวโพลนด้วยเกล็ดหิมะที่เย็นยะเยือ ก แม่เฒ่ายังคงคุ้ยถังขยะอย่ างตั้งใจ ไม่ไยดีกับความหนาว เที่ยงแล้ว.. แม่เฒ่าหยิบขวดน้ำพลาสติกที่คุ้ยมาจากถังขยะ ในขวดยังมีน้ำเหลืออยู่ครึ่งขวด มื้อเที่ยงของนาง คือหมั่นโถวที่พกมาจากบ้าน และน้ำครึ่งขวดนั้น ใกล้ค่ำ แม่เฒ่าแบกของที่หามาได้ทั้งวันไปข า ยที่จุดรับซื้ อ นางคาดว่าวันนี้คงได้หล า ยสิบหยวน เพราะเก็บได้มากกว่าทุกวัน หิมะตกหนักขึ้น คนเดินเริ่มบนท้องถนนน้อยลง แม่เฒ่าข า ยของได้ถึง 75 หยวน นางรู้สึกพึงพอใจ
ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว วันนี้คนงานเลิกงานกลับบ้านอย่ างเร่งรีบ เพราะหิมะตกหนักขึ้น ไฟบนถนนเริ่มสว่างเป็นสีเหลืองนวล ตัดกับพื้นถนนสีขาวที่มีหิมะกองหนา เป็นประกายแวววับจับต า ก่อนถึงบ้าน แม่เฒ่าเหลือบเห็นว่าบนถนน มีของสิ่งหนึ่ง ดูคล้ายกระเป๋าใบเล็ก สีออ กดำ ๆ จวนจะถูกหิมะปกคลุมหมดแล้ว เพราะนางเดินช้าจึงสังเกตเห็น นางอ ดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ มันเป็นกระเป๋าหนังสีดำจริง ๆ หากนางมาช้าอีกเล็กน้อย กระเป๋าคงถูกหิมะคลุมหมด
แม่เฒ่าสันนิษฐานว่า เจ้าของกระเป๋าคงเพิ่งทำหล่น จึงยังไม่ถูกหิมะปกคลุมจนหมด นางเก็บกระเป๋าขึ้น มา พบว่ามันหนักพอสมควร จึงเปิดกระเป๋าออ กดู ในกระเป๋าหนังสีดำ มีธนบัตรใบละ 100 หยวน ถูกมัดเป็นปึก ๆ เต็มกระเป๋า นับได้ 100,000 หยวนพอ ดี แม่เฒ่ายืนงงอยู่ครู่ใหญ่ ไม่ทราบจะจัดการกับเงินในกระเป๋าอย่ างไรดี นางคิดว่าเงิน มากขนาดนี้ คนทำหล่นคงกระวนกระวายใจมาก ดูแล้วเจ้าของเงินคงเพิ่งทำหล่น เพราะกระเป๋ายังไม่ถูกหิมะฝังจนหมด
แม่เฒ่าคิดว่าน่าจะรอสักครู่ เผื่อเจ้าของรู้ตัวคงจะกลับมาหา แม่เฒ่ายืนรออยู่ 10 นาทีกว่า ปรากฎว่า มีรถเก๋งร า ค าแพงคันหนึ่งขับมาช้า ๆ จากแสงไฟบนถนน สังเกตเห็นในรถมีคนขับเป็นช ายวัยกลางคน ส่วนผู้โดยสารเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง ทั้ง 2 ต่างช่วยกันสอ ดส่ายสายต ามองข้าง ๆ ถนนตลอ ดเวลา จนรถเก๋งมาหยุดอยู่ตรงหน้าแม่เฒ่า ช ายวัยกลางคนลงจากรถ เดิน มาหาแม่เฒ่า และถามว่า
‘คุณย าย ขอถามหน่อย เดินอยู่แถวนี้ เห็นกระเป๋าหนังสีดำใบหนึ่งตกอยู่แถวนี้ไหมครับ ‘ลักษณะเป็นไงบ้างล่ะ’ แม่เฒ่าถามช ายคนนั้น ‘ผู้ช ายคนนั้น ทำไม้ทำมือประกอบ บอ กลักษณะกระเป๋าอย่ างละเอียด’ แม่เฒ่าฟังจบก็รู้ว่าผู้ช ายคนนี้เป็นเจ้าของกระเป๋าจริง ๆ นางยื่นกระเป๋าหนังคืนให้ผู้ช ายคนนั้น แล้วพูดว่า
‘ฉันยืนรอตั้งนานแล้ว คุณเอาคืนไปเถอะ ฉันไม่ได้แตะต้องเงินในกระเป๋าเลยนะ รับรองได้’ ช ายคนนั้น มองดูหน้าแม่เฒ่าเหมือนจะค้นหาความจริง เขาเปิดกระเป๋า พอนับจำนวนเงินเสร็จ ก็หันกลับมาจ้องหน้าแม่เฒ่าอีกครั้ง ด้วยสีหน้าที่ไร้รอยยิ้ม พร้อมกับพูดออ กมาเบา ๆ ว่า ‘แปลก’ เขาเดินไปกระซิบปรึกษากับสาวน้อยในรถครู่หนึ่ง แล้วจึงเดิน มามองหน้าแม่เฒ่าอีกครั้ง พร้อมกับถามว่า ‘คุณย าย ในกระเป๋าทำไมจึงเหลือเงินอยู่แค่ 100,000 หยวน อีก 100,000 ห า ยไปไหน’
แม่เฒ่าตกใจจนหน้าซีด ระล่ำระลักตอบว่า ‘เปล่านะ ฉันนับดูทีแรกก็มีแค่ 100,000 เอง คุณดูสิ ทั้งตัวฉันก็มีแค่เงินข า ยเศษกระดาษกับขวดน้ำอยู่ 75 หยวนเท่านั้น’ แม่เฒ่าพูดพลางล้วงเงินในกระเป๋าผ้าออ กมาให้ช ายคนนั้นดู พร้อมกับพูดต่อไปว่า ‘ถ้าคุณจะเอาผิดฉัน ฉันให้เงิน 75 หยวนกับคุณไปก็ได้’ แม่เฒ่าพูดพลางยัดเยียดเงินใส่มือช ายคนนั้นไปทั้งหมด ในระหว่างที่แม่เฒ่ากำลังตื่นตกใจอยู่นั้น เด็กสาวลงจากรถพร้อมกับพูดว่า ‘ปะป๊า เงินที่เบิกมาจากธนาคาร 200,000 ตอนเช้า ป๊าจ่ายค่าสินค้าในเมืองไป 110,000 แล้วนี่
ในกระเป๋าจึงควรเหลือ 90,000 หยวนไม่ใช่หรือ’ ผู้เป็นพ่อมีสีหน้าตกใจ ‘อ้อ จริงด้วย ทำไมพ่อลืมไปแล้ว ไม่ไหว พออายุมากหน่อย เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มักลืมง่าย ๆ ขอโทษทีครับคุณย าย ผมจ่ายค่าสินค้าไป 110,000 แล้ว ในกระเป๋าจึงควรเหลือ 90,000 หยวน
คุณย ายเป็นคนซื่อสัตย์และไม่โลภ ผมก็เป็นคนซื่อ เมื่อเงินผมเหลือแค่ 90,000 อีก 10,000 จึงไม่ใช่ของผม คุณย ายเอาคืนไป ผมไม่เอาเงินคนอื่นเด็ดข า ด’ แม่เฒ่า รับเงิน 10,000 หยวนนั้นอย่ างงง ๆ ยังไม่ทันห า ยตกใจ รถเก๋งคันนั้นก็แล่นจากไปช้า ๆ จนลับห า ยไปจากสายต า แม่เฒ่าคิดว่านี่คงเป็นเงินที่สวรรค์ประทาน มาให้แน่ นางเก็บเงินใส่ในถุงผ้ากอ ดไว้แนบอ ก แล้วเดินกลับบ้านอย่ างมีความสุข เมื่อช ายวัยกลางคนขับรถออ กมา เด็กสาวก็ถามผู้เป็นพ่อว่า ‘ทำไมปะป๊าไม่ให้เงินไปตรง ๆ ทำไมต้องแกล้งหลอ กคุณย ายคนนั้นด้วย’
ผู้เป็นพ่อตอบว่า ‘ลูกไม่สังเกตหรือ คุณย ายยอมยืนทนหนาว ต ากหิมะรอคืนกระเป๋าที่มีเงินเป็นแสนให้เรา หากป๊ายืนยันจะให้เงิน แล้วคุณย ายไม่ยอมรับ ลูกคิดว่าจะทำยังไงต่อ การที่ป๊าทำแบบนี้ ก็เพื่อให้คุณย ายรับเงินก้อนนี้ไปอย่ างไม่ตะขิดตะขวงใจ เพราะคุณย ายเป็นคนซื่อ ที่ไม่คิดเอาเงินคนอื่น และเป็นคน มีน้ำใจสูงมาก สมควรที่ลูกต้องดูเป็นตัวอย่ างว่า คนดีหรือเลวไม่ได้อยู่ที่รูปร่างหน้าต า หรือฐานะใด ๆ ความดีของคนอยู่ที่จิตใจ และการอบรมสั่งสอนของครอบครัวเป็นหลัก จำไว้นะลูก’
ที่มา na-aan