เคยไหมเวลาที่เราพูดอะไรไปแล้วคนอื่นไม่ค่อยอย ากจะรับฟัง นั่นอาจจะเป็นเพราะเราพูดไม่น่าฟัง พูดไม่สนุกฉนั้นวันนี้เราเลยมีเ ท ค นิ คการพูดมาฝากกัน พูดอ ย่ างไรให้คนฟังนั้นอย ากจะฟังเราพูด งานไหนๆก็อย ากให้เเราเป็นคนพูด เป็นอ ย่ างไรเราไปดูกัน
การสื่อส า รได้อ ย่ างมีประสิทธิภาพ เป็นหนึ่งในความสามารถที่จำเป็นต่อ การใช้ชีวิตมาก แต่มันก็เป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยให้ความสนใจ กับมันซักเท่าไหร่ ไม่ว่าคุณจะแค่อย ากมีความสามารถในการสนทนากับเพื่อนๆได้ดีขึ้น หรือคุณอย ากจะอธิบายไ อ เ ดี ยเด็ดๆของคุณให้เพื่อนร่วมงานฟัง บทความนี้จะบอ กคุณถึงเ ท ค นิ ค ที่จำเป็นในการสื่อส า รอ ย่ างมีประสิทธิภาพ มันแทบจะไม่ต่างอะไรกับการขี่จักรย านหรือว่ายน้ำเลย เพราะถ้าเป็นแล้วคุณจะไม่ลืมมันหรอ ก
1. ปรับตัวไปต ามผู้ฟัง
การสื่อส า รที่ดีที่สุด คือปรับวิ ธีการพูดไปต ามผู้ฟัง คุณอาจจะมีสไตล์ในการสื่อส า รมากมายหล า ยแบบ ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่ต้องพูดกับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า แฟน เ ด็ ก หรือผู้สูงอายุ พย าย ามนึกถึงผู้ฟังของคุณอยู่เสมอ เวลาที่คุณต้องการจะสื่อส า รกับเขา แน่นอนว่า อ ย่ าพูดกับแฟนของคุณเหมือนกับที่พูดกับหัวหน้าของคุณเชียวนะ ไม่อ ย่ างงั้นล่ะก็อ ย่ าหาว่าเราไม่เ ตื อ น
2. นึกถึงความรู้สึกคนอื่น
การสื่อส า ร เป็นอะไรที่ไปสองทาง ถ้าคุณฝึกมองจากมุมมองของฝั่งตรงข้าม คุณจะลดความกังวลและความย ากลำบาก ในการสื่อส า รกับผู้อื่นไปได้เลย ยกตัวอ ย่ างเช่น ถ้าคุณเข้าใจเวลาที่แฟนคุณ บอ กว่าเธอเหนื่อยเกินกว่าที่จะคุยกัน ว่าจริงๆแล้วมันหมายความว่าเธออย ากคุยกับคุณ คุณก็มาถูกทางแล้วแหละ การนึกถึงความรู้สึกคนอื่นจะทำให้คุณเข้าใจ ข้ อความที่ฝั่งตรงข้ามต้องการสื่อได้ดีขึ้น ถึงแม้ว่าบางอ ย่ างเค้าจะไม่ได้พูดมันออ กมาก็ต าม และพอคุณเข้าใจ
คุณก็จะสามารถโต้ตอบได้อ ย่ างมีประสิทธิภาพ อีกด้วย เรารู้ว่ามันไม่ง่ายหรอ กที่จะต้องมาคอยนึกถึงคนอื่นตลอ ดเวลา แต่การสังเกตพฤติก ร ร มของคน และคอยเอาสิ่งที่เห็น มาวิเคราะห์ก็เป็นวิ ธีที่ดีในการฝึกเรื่องนี้นะ
3. ระวังภาษากายของคุณไว้ให้ดี
คุณบอ กเพื่อนว่า คุณพร้อมที่จะคุยกับเขา แต่คุณกำลังกอ ดอ กอยู่ คุณบอ กว่าคุณกำลังฟังที่เขาพูด แต่ต าคุณก็ยังมองโทรศัพท์พอจะเห็นภาพหรือยัง ภาษากายของเรามักจะบอ กอะไร ได้มากกว่าที่เราคิด ไม่ว่าจะเป็นวิ ธีที่คุณสบต า หรือท่าทางของคุณในตอนที่สัมภาษณ์
คุณกำลังสื่อส า รอยู่ตลอ ดเวลา แม้คุณจะไม่ได้พูดอะไรเลยก็ต าม มันอาจจะฟังดูเป็นวิ ธีแปลกๆในการพัฒนา การสื่อส า รของคุณนะ แต่เราอย ากให้คุณ นึกถึง หัวแม่เท้า หรือลองหาท่าโพสแบบทรงพลัง ที่จะเพิ่มความมั่นใจให้คุณแบบเต็มเปี่ยมก่อน จะต้องไปเจรจางานใหญ่ หรือ คุณจะลองเรียนรู้ที่จะ อ่ า น ภาษากายของคนอื่น เพื่อที่คุณจะหาวิ ธีตอบกลับไปได้อ ย่ างเหมาะสมก็ได้นะ
4. ฟังให้มากๆ
สิ่งหนึ่งที่คุณจะทำได้ก็คือ ฟังให้เยอะๆ ให้ความสนใจกับสิ่งที่คนอื่น กำลังพูดและไม่ขัดจังหวะเขา ถึงคุณจะมีสไตล์ในการสื่อส า รที่ไม่ตรงกัน แต่อ ย่ างน้อยคุณก็จะเข้าใจ ในเรื่องเดียวกันนะ และหวังว่าอีกฝ่ายจะฟังคุณอ ย่ างตั้งใจเหมือนกับที่คุณฟังเขา
5. พูดสั้นๆ แต่ก็เจาะจงด้วย
เวลาสื่อส า ร ทั้งการเขียนและการพูด คุณควรจะมีที่มา เหตุผล ใจความ และประโยคปิดท้ายที่ดี เพื่อที่ข้ อความของคุณจะได้สั้นกระชับและไม่มีอะไรตกหล่น นอ กจากนั้น คุณควรจะสื่อส า รให้ชัดเจน ได้ใจความ เห็นภาพ ถูกต้อง เ นื้ อ ความสอ ดคล้องกัน ครบถ้วนสมบูรณ์ และสุภาพนอบน้อมอีกด้วย
6. อ ย่ าติดเอ่อ
การที่คุณพูด คือ เอ่อ หรือ แบบว่า ในระหว่างประโยคมันไม่ทำให้การพูด ของคุณดูดีขึ้นเลย เอาคำพวกนั้นออ กไปเถอะ แล้วประโยคของคุณจะฟังดูน่าเชื่อถือและมั่นใจ วิ ธีที่จะลดการพูดคำพวกนี้ก็คือ ตั้งสติและลองนับดูว่าเราพูดมันบ่อยแค่ไหน หรือคุณอาจจะลองเอามือออ กจากกระเป๋า ทำตัวต ามสบาย และหยุดทำสมาธิก่อนที่จะพูดก็ดีนะ ความเงียบระหว่างประโยคมันไม่ แ ย่ อ ย่ างที่คุณคิดหรอ ก
7. คอยถามคำถาม และทวนในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด
ยอมรับเถอะว่าเราทุกคน เคยนั่งใจลอยเวลาที่คนอื่นพูดอยู่ หรือได้ยินอะไรผิ ดๆ การถามคำถามและทวนในสิ่งที่อีกฝ่ายพึ่งพูดถึงไป จะแสดงให้เห็นว่าคุณได้ใส่ใจกับสิ่งที่เขาพูด และช่วยให้คุณได้เข้าใจในบางอ ย่ างที่คุณอาจจะเข้าใจผิ ด
นอ กจากนั้น มันยังช่วยในการพูดแบบกึ่งทางการ และ ช่วยเติมเต็มความเงียบในบทสนทนาได้อีกด้วยนะ แทนที่จะเปิดการสนทนาด้วยลมฟ้าอากาศ ลองถามคู่สนทนาของคุณดูว่า หน้าร้อนนี้มีแพลนไปไหนรึเปล่า หรือช่วงนี้ได้ดูหนังอะไรบ้างไหม แล้วก็ต่อยอ ดจากคำตอบเหล่านั้นดีกว่า คุณควรจะเป็นคนที่ให้ความสนใจคนอื่น มากกว่าทำตัวเป็นคนที่น่าสนใจซะเองนะ
8. รู้จักเล่าเรื่อง
เรื่องราวต่างๆ เป็นอะไรที่ทรงพลังมาก มันจะทำให้เราตื่นตัว ทำให้การพรีเซนต์ของคุณ ดูน่าสนใจมากขึ้น ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น และอาจจะทำให้คุณผ่านการสัมภาษณ์ไปได้อ ย่ างดีก็ได้ ความลับในการเป็นนักเล่าเรื่องที่ดีนั้น คือให้คุณใช้คำว่า แต่ มาประกอบในการเล่าเรื่อง
ทุกๆ คน มีเรื่องราวดีๆ อ ย่ างน้อยหนึ่งเรื่องให้เล่าอยู่แล้วแหละ แต่มันจะดีมากเลยถ้าคุณเตรียมเรื่องไว้ในหัว อ ย่ างน้อยสามเรื่อง สำหรับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน คุณสามารถใช้เรื่องพวกนี้ เป็นตัวดึงดูดความสนใจและให้คนฟังคล้อยต ามไปในสิ่งที่คุณกำลังพูดอยู่ได้เลยนะ
9. มีสคริปอยู่ในหัวสำหรับการพูดคุยแบบกึ่งทางการ หรือ การพูดเนื่องในโอกาสต่างๆ
การพูดแบบกึ่งทางการเป็นศาสตร์ ที่มีคนแค่ไม่กี่คนสามารถทำได้ ถ้าคุณไม่ใช่คนพวกนั้น คุณควรจะวางแผนไว้ล่วงหน้า เพราะการพูดติดๆ ขัดๆ เวลาที่ต้องคุยกับคนที่เราไม่คุ้นเคยนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนใหญ่แล้ว การพูดถึง ครอบครัว หน้าที่การงาน กิจก ร ร มย ามว่าง หรือความฝันของคุณ จะเป็นหัวข้ อที่ดีในการสนทนา เพราะข้ อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณและคู่สนทนาของคุณได้รู้จักกัน มากขึ้น และมันก็ง่ายขึ้นที่จะหาเรื่องคุยอื่นๆที่คุณทั้งคู่สนใจต่อไป
10. เอาอะไรที่รบกวนความสนใจออ กไป
มันค่อนข้างจะ ห ย า บ ค า ย นะ ที่คุณเล่น มือถือตลอ ดเวลาที่คุณกำลังอยู่กับเพื่อนๆ และควรจะคุยกับพวกเขา เราเข้าใจว่าคุณไม่สามารถจะกำจัดสิ่งรบกวนหรือเทคโนโลยีพวกนี้ออ กไปได้หมดหรอ ก แต่การหยุดใช้มันซักแป๊บนึงจะทำให้ความสามารถในการสื่อส า รกับคนอื่นของคุณดีขึ้นอ ย่ างเห็นได้ชัดเลยนะ ในประเทศไทย การสนทนาแบบตัวต่อตัวแบบธรรมดาๆ แทบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว เพราะคนไทยติดมือถือ และไม่สามารถวางมันลงได้
คนแบบนี้จะไม่สามารถประสบความสำเร็จในประเทศแถบตะวันตกได้อ ย่ างแน่นอนนะจ๊ะ ระวังเอาไว้ด้วย ถ้าคุณไม่สนใจฟังที่คนอื่นพูด พวกเขาก็จะมองว่าคุณเป็นคนหยิ่งและไม่ฉลาด ซึ่งคุณอาจจะเป็นคนแบบนั้นจริงๆ ก็ได้ แต่ว่าเราจะบอ กความลับให้ ผู้คน มักจะชอบคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีและฉลาดมากกว่าอยู่แล้ว ดังนั้น ฟังที่พวกเขาพูดเถอะ ตั้งใจฟัง แล้วคนพวกนั้นก็จะรู้สึกดีกับคุณเองแหละ
ที่มา w o r k v e n t u r e yindeeyindee