การรู้จักใช้ชีวิตเป็นสิ่งหนึ่งที่เราต้องมี เพราะมันคือคุณสมบัติอ ย่ างหนึ่งของคนฉลาด วางตัวเป็น ซึ่งจะทำให้เรานั้นอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ ไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา ฉนั้นวันนี้เราจะพามาดูกันว่า คนแบบนี้เขาเป็นอ ย่ างไร
1 ชอบอยู่กับตัวเอง
คนที่ฉลาดจะมีคว ามเป็นปัจเจกบุคคล ซึ่งคาดเดาได้ว่า พวกเขาอาจใช้เวลาเ หล่านั้นขบคิดคำถาม หรือบางเรื่องที่ตั วเองกำลังสนใจ สัมพันธ์กับในชีวิตจริง ที่หล า ยครั้งเร าเกิดปิ๊งไอเดียขึ้น มา ในเวลาที่อยู่คนเดียว
2 เอาใจใส่คนรอบข้าง
คนที่เอาใจใส่ในเ รื่องความต้องการ ความรู้สึกของผู้อื่น และทำในสิ่งที่คนเ หล่านั้นต้องการ คือคนที่ฉลาดทางอารมณ์ ขณะเดียวกันความฉลาดท างอารมณ์ยังหมายถึง ความสนใจที่จะเข้ าไปพูดคุยกับผู้คนใหม่ๆ
3 เชื่อมโยงความคิดในเรื่องต่างๆ ได้
คนฉลาดจะมองเห็นใ นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น เพราะว่าพวกเขาส ามารถเชื่อมโยงความคิด จากเรื่องที่ดูเหมือ นจะไม่เกี่ยวกันได้
4 สนใจใคร่รู้ตลอ ดเวลา
อัลเบิร์ตไอน์สไตน์ เคยพูดถึงตัวเองว่า ผมไม่ได้มีความส ามารถพิเศษอะไร ผมเป็นแค่คนอย ากรู้อย ากเห็นแค่นั้นเอง งานวิจัยตีพิมพ์ปี 2016 ระบุว่า การได้เปิดโลกในวัยเ ด็ก สัมพันธ์กับความสนใ จใคร่รู้ในตอนเป็นผู้ใหญ่
5 เปิดกว้าง
คนที่ฉลาดจะไม่ปิดกั้นตัวเอง เมื่อมีโอกาส หรือไอเดียใหม่ๆ เข้ามา เขามักจะมองหาทางเลือ ก แล้วชั่งน้ำหนัก เพื่อหาเหตุผลที่ดีที่สุด คนเหล่านี้จะเ ก ลี ย ดการยอมรับอะไรง่ายๆ เขาจะหาคำตอบจนกว่าจ ะมีหลักฐานที่ยืนยันได้จริงๆ เท่านั้น
6 ปรับตัว และยืดหยุ่น
คนที่ฉลาดมักจ ะมีความยืดหยุ่น และปรับตัวได้ดีในสถ านการณ์ต่างๆ โดยไม่หวั่นไหวกั บความไม่ชัดเจน หรือข้ อจำกัดใดๆ มีผลงานวิจัยด้านจิตวิทย าออ กมาสนับสนุนว่า สติปัญญาสามารถปรับเปลี่ยนพฤติก ร ร ม เพื่อรับมือ กับสภ าพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
7 มีอารมณ์ขัน
คนที่มีอารมณ์ขันส่วนใหญ่ มักจะเป็นคนที่ฉลาด มีงานศึกษาชิ้นหนึ่งระบุว่า คนที่ทำคะแนนการเขียนคำบรรย ายการ์ตูนตลกได้สูงเยอะๆ จะเป็นคนที่ฉลาดด้านการใช้ภาษา
8 ผัดวันประกันพรุ่ง
คนฉลาดจะผัดวันประกันพรุ่ง จากงานที่ทำประจำวัน หรือทำซ้ำๆ ในเวลาที่เขาพบเป้าหมาย หรือสิ่งที่สำคัญกว่า นักจิตวิทย ากล่าวว่า นี่คือหัวใจของการสร้างสรรค์นวัตกร รมเลยก็ว่าได้
9 รู้ว่าตัวเองไม่รู้
ไม่กลัวที่จะพูดว่า ฉันไม่รู้ และพร้อมจะเรียนรู้ใ นสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ เพราะคนที่ไม่ฉลาดจะประเมินคว ามสามารถตัวเองสูงกว่าความเป็นจริง จากผลการทดลองระบุว่า นักเรียนกลุ่มที่ได้คะแนนต่ำที่สุด จากการให้ลองทำข้ อสอบประเมินคำตอบ ที่ตัวเองจะตอบถูกได้เพียง 50 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่นักเรียนกลุ่มที่ได้คะแนนสูงสุด ประเมินได้ใกล้เคียงกั บความเป็นจริงกว่ามาก
ที่มา sit-smiling