นิสัยของคนจะร่ำร ว ย เป็นเ ศ ร ษ ฐีด้วยลำแข่งของตัวเอง มักจะมีนิสัยเหล่านี้

หากคุณนั้นเป็นคนหนึ่งที่อย ากจะมีอนาคตที่ดี เป็นคนร่ำร ว ย เป็นเ ศ ร ษ ฐี วันนี้เราจะพาคุณไปดูนิสัยของเหล่าเ ศ ร ษ ฐีที่เขานั้นสร้างความร่ำร ว ย ความมั่นคงมั่งคั่งด้วยลำแข่งของเขาเอง

กับบทความ นิสัยของคนจะร่ำร ว ย เป็นเ ศ ร ษ ฐีด้วยลำแข่งของตัวเอง มักจะมีนิสัยเหล่านี้ ไปดูสิว่าคุณนั้น มีนิสัยเหล่านี้อยู่ในตัวของคุณบ้างหรือเปล่า และหากคุณอย ากที่จะเป็นเ ศ ร ษ ฐีคนต่อไปคุณจะต้องปรับเปลี่ยนนิสัยของตัวเองอย่างไรบ้าง เพื่ออนาคตที่สวยสดใสของคุณในวันข้างหน้า

1 ) ให้เวลากับตัวเองในการคิดใคร่ครวญ

คนร ว ย สร้างเอง จะใช้ส ม อ ง คิดใคร่ครวญการงานต่าง ๆ เงียบ ๆ คนเดียว อย่ างน้อย 15 นาทีทุกวันซึ่งเรื่องที่คิดไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับ เงินทองธุรกิจล้วน ๆ แต่เขายังคิดเรื่องการวางแผนชีวิตโดยรวม และการดูแลสุ ข ภ า พ เช่นกัน

2 ) เข้าสังคมกับคนแบบเดียวกัน

ซึ่งคนแบบเดียวกันหมายถึง คนที่มีเป้าหมาย มองโลกด้านบวก มีความกระตือรือร้น จะว่าพวกเขา เลือ กคบก็ได้ แต่เพราะพวกเขารู้ว่ าเวลามีจำกัดจะคบ ทุกคนทุกเวลาไม่ได้ แถมการคบคนที่คิดลบ ช่างนินทาแต่ไม่

ลงมือทำก็กลับจะยิ่ง บั่นทอนกำลังใจ และหากเรา อ ย า ก จะอยู่ในสังคม คนร ว ย สร้างเองจริง ๆ เราไม่จำเป็นต้องร ว ย ก่อนก็ได้แค่เราต้องมีพื้นฐานทัศนติ ด้านบวก มีแนวคิดก้าวหน้า และมีความรู้จริง แบบนี้ใคร ๆ ก็ อ ย า ก คุยด้วย อ ย า ก ทำธุรกิจด้วย

3 ) ตื่นเช้า

คนร ว ย เกือบ 50% มีเวลาตอนเช้ามืด อ ย่ า ง น้อย 3 ชั่ ว โมง ก่อนเริ่มทำงานจริง เช่น เริ่มงาน 8 โมง ก็ตื่นตี 5 เพราะตื่นเร็วกว่า ก็มีเวลาคิด และทำสิ่งต่างๆได้มากกว่า กล า ยเป็นว่าคนตื่นเช้า สามารถควบคุม ปัจจัยเวลาได้ ส่วนคนที่ตื่นสาย ทำอะไรช้า ก็จะถูกเวลา ไล่กวดอยู่เสมอ

4 ) มีเเหล่งรายได้หล า ยทาง

65% ของคนร ว ย ในกลุ่มที่ทำการศึกษา ไม่ได้มีรายได้จากแหล่งเดียว แต่มีจาก 3 ช่องทางเป็นอ ย่ า งน้อย อ ย่ าง เช่น บ้านหรือคอนโดให้เช่า กำไรและเงินปันผล

จากหุ้นและการร่วมหุ้น ทำธุรกิจซึ่งไม่จำเป็น ต้องเริ่มจากสิ่งใหญ่โต ใช้เงิน มากเกินตัว แต่สามารถค่อย ๆ ริเริ่มลองทำ และต่อยอ ดขยับ ข ย า ย ไปเรื่อยๆ

5 ) อ่ า นหนังสือเป็นประจำ

88% ของคนร ว ย อ่ า นหนังสืออ ย่ า งน้อย 30 นาทีทุกวัน และเป็นการอ่ า นเพิ่มความรู้ เพื่อเอาไปใช้ต่อยอ ด ไม่ได้อ่ า นหนังสือ หมวดบันเทิง

6 ) ออ กกำลังกายเป็นประจำ

76% ของคนร ว ย ออ กกำลังกาย อ ย่ าง น้อย 30 นาทีทุกวัน เพราะเขารู้ว่า การออ กกำลังกาย ไม่ได้ดีต่อสุ ข ภ า พ ร่ า ง ก า ย เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ส ม อ งตื่นตัวอีกด้วย

7 ) คิดบวก

ผู้ทำการศึกษาเรื่องนี้ย้ำว่า การคิดบวกเป็นสุดยอ ด ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ของคนร ว ย สร้างเองทุกคน ซึ่งปัญหาของ คนส่วนใหญ่คือ ไม่ค่อยสำรวจจิตใจตัวเอง ว่าเป็นคนคิดลบ หรือคิดบวก ซึ่งคนร ว ย จะมี ความรู้สึกตัวตนอยู่เสมอ ว่าจะไม่ปล่อยให้ตัวเอง ตกลงไป ในหลุมของ การคิดลบ

8 ) ไม่เห่อต ามกระเเสมหาชน

แต่คนร ว ย จะสร้างกระแส ของตัวเองขึ้น มา และชักชวนคนรอบข้างให้เดินต าม

9 ) มีมารย าทดี ทำตัวเหมาะสม

คนร ว ย รู้ว่าในโอกาส ไหนควรทำอะไร เช่น ส่ งจดหมายขอบคุณ เมื่อได้รับความช่วยเหลือ กล่าวแสดงความยินดี เมื่อเพื่อนประสบความสำเร็จ ร่วมโต๊ะอ า ห า ร อ ย่ า ง สำรวม

และแต่งตัวเหมาะสม ไม่น้อยเกิน และไม่มากเกิน อะไรที่เกินพอ ดี คือ ไม่ดีส่วนหนึ่งก็เพื่อรั ก ษ า ความสัมพันธ์ แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะ เขารู้จักใจเขาใจเรารู้ว่า We are all humans

คือทุกคน มีชีวิตจิตใจ ต้องการกั ล ย า ณ มิ ต ร และการจะให้คนอื่นรู้ว่าเราคือ กัลย าณมิตร คือต้องแสดงออ ก ไม่ใช่แค่คิดในใจ ลองคิดดูว่ามีคนแสดงให้เรารู้ ว่าเขารู้สึกดีกับเรา ขอบคุณเรา ชื่นชมเราเราก็คงยินดีเช่นกัน แต่ถ้าทุกคนคิดดีกับเราหมด แต่ไม่เคยบอ ก ไม่เคยแสดงออ ก เราจะไม่รู้แต่แรกเลยด้วยซ้ำ ว่าเรามีคนแบบนี้อยู่รอบตัว

10 ) เเสวงหาที่ปรึกษาของชีวิต

ที่ปรึกษาไม่จำเป็น ต้องอายุมากกว่า แต่สามารถเป็นเพื่อน ที่มีประสบการณ์ ในบางด้าน มากกว่า เคยทำบาง อ ย่ า ง สำเร็จมาก่อน และที่ปรึกษาไม่ได้ช่วย พัฒนาชีวิตคนร ว ย เฉพาะ ด้านธุรกิจหรือ

การเงินเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ชีวิตส่วนตัว มีความสุข ผ่ า น พ้นปัญหา หล า ยรูปแบบที่ย าก ๆ ได้คือคนร ว ย จะไม่คิดเอง ทำเองด้วยตัวคนเดียว แต่ยินดีให้คน มาช่วยคิด ช่วยแนะนำสิ่งดี ๆ อยู่เสมอ

11 ) ยินดีช่วยคนอื่นให้สำเร็จไปด้วย

ซึ่งคนร ว ย สร้างเอง ก็จะรู้จักเลือ กช่วยเช่นกัน ซึ่งไม่ใช่แบบ เล่นพรรคเล่นพวกล้วน ๆ ไม่ใช่เห็นแก่ตัวขั้นรุ น เ เ ร ง แต่เพราะเขารู้ว่า ไม่สามารถช่วยทุกคนทุกเวลาได้ เพราะแบบนั้น

ก็จะไม่มีเวลาไปช่วย คนที่มีศักยภาพมากพอ ที่จะประสบความสำเร็จ ผลงานโดยรวม ก็จะออ กมากลาง ๆ หรือต่ำเพราะถ้าช่วยเหมาเข่ง คนเก่งก็จะได้รับเวลา ท รั พ ย า ก รไม่มากพอ ส่วนคนที่กลาง ๆ เบ ๆ ต่อให้ช่วยมากเท่าไร เขาก็ไปได้แค่นั้น

12 ) ชอบฟังเสียงสะท้อนจากผู้คน

แม้แต่คนที่ร ว ย แล้ว ก็ไม่ได้คิดถูก ทำถูกทุกเรื่องทุกครั้ง และเขารู้ว่า ถ้าไม่เปิดใจรับฟัง ความเห็นก็ไม่มีทางรู้ตัว ได้อ ย่ า งทันท่วงที ว่าอะไรกำลังผิดทาง อะไรที่คนไม่ชอบ เขาจึงแสวงหาความเห็น จากคนรอบข้างทั้งเพื่อนคู่ค้า และลูกค้าแล้วถ้าฟังแล้ว มีเหตุผลจริงก็ยอมรับ พร้อมกับเอามาปรับปรุง ให้การงานต่าง ๆ กลับเข้าเส้นทางที่ถูกต้อง

ส่วนคนที่กลัว ความเห็นจากคนอื่นก็เ สี่ ย ง มากที่จะล้มทั้งยืน เพราะไม่รู้ตัวรู้ช้า ว่ากำลังเดินลงเหว และส่วนใหญ่ก็จะเดินลงเหว คนร ว ย ก็สามารถ หลงเดินไปเส้นทาง ที่พาไปลงเหวได้เช่นกัน

แต่เค้ารับฟังเสียงเตือน ว่านั่นน่ะผิดทาง อ ย่ า ง ที่บอ กไว้แต่แรก ว่าคนร ว ย สร้างเอง ก็เกิดมาเป็นคนธรรมดา แต่ด้วยทัศนคติที่ใช่ และการกระทำที่ใช่ ผ่ า น การต่อสู้ฝ่ า ฟั น

และปรับตัว คนธรรมดาก็ร ว ย ได้ สำเร็จได้ด้วยตัวเอง และถ้าเราเชื่อว่า ทัศนคติที่ใช่นั้น สร้างได้ ไม่ต้องลุ้นให้มี ติ ด ตัวมาแต่เกิด แบบพรสวรรค์เราก็สามารถ สร้างทัศนคติที่ใช่ของเราเองได้เช่นกัน

13 ) พุ่งชนเป้าหมาย

คนที่มีเป้าหมาย และมุ่งหน้าเดินสู่เป้าหมายอ ย่ า งไม่ท้อ ล้มแล้วก็ลุกต่อให้เดินไป ได้ก้าวสองก้าวแล้วล้ม ก็ลุกมาเดินต่อ สุดท้ายจะก็ไปถึงเป้าหมายได้ และคนร ว ย สร้างเอง จะตั้งเป้าหมายส่วนตัว ไม่เอาชีวิตของคนอื่น มาลอ กเป็นเป้าหมาย ของเขา

ที่มา : thaipt, sabailey และ sabuyjaijung