4 นิสัยการใช้เงิน ที่ทำให้ชีวิตลำบาก หากไม่รีบปรับ

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิดการใช้ชีวิต กับบทความ 4 นิสัยการใช้เงิน ที่ทำให้ชีวิตลำบาก หากไม่รีบปรับ ไปดูกันว่านิสัยแบบไหนบ้างที่จะทำให้ชีวิตลำบากในอนาคต

1 ไม่วางแผนการใช้เงิน

เชื่อว่าหล า ยคน ไม่เคยวางแผนการใช้เงินในแต่ละเดือน และไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องทำ เมื่อมีรายได้จากการทำงานหรือได้รับเงิน จากคุณพ่อคุณแม่มาเท่าไร ก็ใช้จ่ายไปอย่ างเต็มที่ อย ากทานอะไร อย ากได้อะไรก็ซื้ อทันที พอรู้ตัวอีกทีก็ตอนสิ้นเดือนซึ่งเงินเริ่มไม่พอใช้แล้ว จึงต้องหาทางประหยัดค่าใช้จ่ายหรือไม่ก็ต้องขอเงินคุณพ่อคุณแม่เพิ่มเติมให้เป็นภาระท่านอีกจะดีกว่าไหม หากเรารู้จักวางแผนการใช้เงิน ตั้งแต่ต้นเดือน โดยเริ่มจากการออมก่อนใช้อย่ างน้อย 20% ของรายได้เพื่อให้มีเงินเก็บ ส่วนเงินที่เหลือก็ให้คำนวณออ กมาว่า จะต้องใช้สัปดาห์ละเท่าไร หากคิดเป็นรายวัน ควรใช้ไม่เกินวันละเท่าไร จึงจะเพียงพอต่อ การใช้ใน 1 เดือน วิธีนี้นอ กจากจะช่วยให้มีเงินใช้เพียงพอในแต่ละเดือนแล้ว ยังช่วยให้เรามีเงินเก็บทุกเดือนอีกด้วย

2 ใช้จ่ายเงินเกินตัว

การใช้จ่ายเงินเกินตัวถือ เป็นอีกหนึ่งพฤติก ร ร มที่ทำให้ไม่มีเงินเก็บ หล า ยคนใช้เงินเกินรายได้หรือรายรับที่เข้ามา เช่น ซื้ อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ซื้ อของใช้แบรนด์เนม พวกเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง ชอบไปเที่ยวสังสรรค์ ทานอาหารนอ กบ้านในร้านหรูๆ หรือชอบดื่มช า กาแฟร า ค าแพง ทั้งนี้ก็เพราะเป็นห่วงเรื่องภาพลักษณ์ หน้าต า และต้องการการยอมรับในสังคมหารู้ไม่ว่าพฤติก ร ร มเหล่านี้เป็นตัวผลาญเงินในกระเป๋าอย่ างดี และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เราไม่มีเงินเก็บ ดังนั้น ลองหาทางปรับลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในส่วนนี้ลง

โดยอาจจะเริ่มทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อให้เห็นว่ามีรายรับเท่าไหร่ ในแต่ละวันเราใช้เงินไปกับอะไรบ้าง และมองเห็นภาพว่าตรงจุดไหนคือค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยที่ว่า จะจดใส่สมุดบันทึกส่วนตัว หรือใช้บริการแสนสะดวกสบาย ผ่านสมาร์ทโฟนก็ได้ : บัญชีรายรับ-รายจ่ายยุคใหม่ทำได้ง่ายด้วยสมาร์ทโฟน จากนั้นก็พย าย ามใช้จ่ายเงินในชีวิตประจำวันให้ เหมาะสมกับรายได้ที่ได้รับก็จะช่วยให้เรามีเงินเก็บ

3 ใช้บัตรเครดิตไม่เป็น

บัตรเครดิตเปรียบเสมือน ด า บ สองคม หากใช้เป็นก็จะเกิดประโยชน์กับเรามากมาย แต่ถ้าใช้บัตรไม่เป็นก็สามารถ บ่ อ น ทำ ล า ย สถานะการเงิน ของเราได้เช่นกัน บางคนใช้บัตรเครดิตรูดซื้ อสินค้าต ามใจ โดยลืมนึกถึงว่าเมื่อครบกำหนดชำระแล้วจะมีเงินไปจ่ายเต็มจำนวนหรือไม่ ซ้ำ ร้ า ย กว่านั้นคือ บางคนคิดว่าหากไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวนก็ไม่เป็นไร ใช้วิธีผ่อนจ่ายขั้นต่ำ 10% เอาก็ได้ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะเท่ากับว่าเรายอมเป็นห นี้ และยอมจ่ายดอ กเบี้ยสูงถึง 20% ต่อปี นอ กจากจะไม่มีเงินเก็บแล้วยังมีห นี้มาให้ ป ว ด หั ว อีกต่างหาก ดังนั้น ต้องรู้จักใช้บัตรเครดิตให้เป็น โดยท่องไว้ให้ขึ้นใจว่า รูดบัตรไปเท่าไรต้องหาเงิน มาชำระให้ตรงเวลาและเต็มจำนวนเท่านั้น

4 ไม่มีเป้าหมายในการเก็บเงิน

หล า ยคนใช้จ่ายเงินไปวันๆ โดยไม่มีเป้าหมาย ในการเก็บเงิน ไม่รู้ว่าจะเก็บเงินไปทำไม เลยไม่คิดที่จะเก็บเงิน เรียกว่าไม่มีแรงจูงใจในการเก็บเงินก็ว่าได้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เราไม่มีเงินเก็บ ในทางกลับกัน หากเรามีเป้าหมายในการเก็บเงิน เช่น ตั้งใจจะเก็บเงินจำนวน 200,000 บาท เพื่อเรียนต่อปริญญาโทในอีก 2 ปีข้างหน้า คราวนี้เราก็รู้แล้วว่าจะต้องเก็บเงินไปเพื่ออะไร ทำให้มีแรงจูงใจในการเก็บเงิน มากขึ้น และสามารถคำนวณได้ว่า ต้องเก็บเงินเดือนละเท่าไรจึงจะมีเงินไปเรียนต่อต ามที่ตั้งใจไว้

สุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่าช่วงวัยเรียนหรือวัยเพิ่งเริ่มต้นทำงาน เงินเก็บที่มีอาจจะน้อย หรือยังเก็บเงินไม่ค่อยได้ ก็อย่ าเพิ่งกังวลไป ถ้าเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจเก็บเงิน สามารถหลีกเลี่ยงพฤติก ร ร มที่ทำให้ไม่มีเงินเก็บ หรือเปลี่ยนพฤติก ร ร ม การใช้เงินที่ไม่ดีได้ รับรองว่าจะมีเงินเก็บไว้ใช้ในอนาคตอย่ างแน่นอน

ที่มา d d p r o p e r t y, y i n d e e y i n d e e