15 ลักษณะหัวหน้าที่เก่ง ฉลาด ที่ลูกน้องรัก

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ลักษณะของหัวหน้าที่ดี ที่ลูกน้องรักและเคารพ กับบทความ 15 ลักษณะหัวหน้าที่เก่ง ฉลาด ที่ลูกน้องรัก ไปดูกันว่าหัวหน้าที่ดี ที่เก่งนั้นจะเป็นคนอย่ างไร

1 หัวหน้างานที่ดีต้องมีคุณธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ

เพื่อใช้ในการปกครองคนคุณธรรม คือ สิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเรา หากเรามีคุณธรรมในใจเยอะทำสิ่งใดเราจะคิดก่อนทำ ผมฝากหัวหน้างานทุกคนให้มีคุณธรรม คือ ธรรมมะในการครองตนเอง เช่นการถือศีล5 การยึดหลักพรหมวิหาร 4 ( เมตต า กรุณา มุทิต า และอุเบกขา )

คิดดี พูดดี ทำดี

มีความรู้ผิดชอบชั่ วดี

มีความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ

ฯลฯ

2 หัวหน้างานที่ดีต้องมีความคิดที่ดีทั้งเรื่องงาน เรื่องคน

ทั้ง ต่อหน้าและลับหลัง เริ่มต้นจาก ‘หัว’ นั่นคือต้องมีความคิดที่ดีต่อคนรอบข้าง และรู้จักคิดก่อนพูดก่อนทำ หากเรามีหัวที่คิดดี พูดดี ทำดี พฤติกรร ม เราย่อมสะท้อนด้านดีเช่น การพูดชมหรือตำหนิ ก็ต้องคิดเพื่อใช้คำพูดให้เหมาะสม กับคนนั้น ๆ การพูดชมก็ควรพูดต่อหน้า ลูกน้องคนอื่นๆ เพื่อให้เขาเห็นว่า หากเราทำดี หัวหน้าพร้อมชมเชยเสมอ แต่หากเป็นการตำหนิ ก็ควรเรียกมาคุยเป็นการส่วนตัว มากกว่าตำหนิต่อหน้าคนอื่น ๆ ให้เขาเสียหน้า เป็นต้น

3 หัวหน้างานที่ดีรู้จักคิดก่อนพูด พูดในสิ่งที่ดี

สร้างสรรค์คนทุกคน มีปาก ที่จะพูดอะไร ก็ได้ต ามใจเรา แต่หากเราเป็นผู้นำแล้วนั้น การใช้ปากต ามใจเราย่อมทำไม่ได้ครับเพราะ หากตอนนั้นเรากำลังโมโหอยู่ แต่นำสิ่งที่ไม่ดีไปลงกับลูกน้องแบบนี้ลูกน้องที่ไหน ก็คงไม่อย ากทำงานกับเรา จริงไหมครับ !! ดังนั้น การใช้ปาก ต้องใช้ในทางที่ดี สร้างสรรค์ ใช้ในการบอ กเล่า ประสบการณ์ในการแนะนำสอนงานต่อลูกน้อง หากลูกน้องคนนั้นไม่สามารถทำงานนั้นได้ ใช้ในการชื่นชมลูกน้องขอบคุณลูกน้อง ให้กำลังใจลูกน้องและให้คำแนะนำในการปรับปรุงตนเองเป็นต้น แบบนี้ดีกว่าเยอะครับ

4 หน้างานที่ดีต้องรู้จักยิ้มแย้มแจ่มใสต่อหน้าลูกน้องและคนอื่น ๆ ที่ร่วมงาน

คนบางคน อาจเป็นเสือยิ้มย าก โดยพฤติกรร ม แต่พฤติกรร มก็ย่อมสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ หากเราเข้าใจในบทบาทของการเป็นผู้นำเพราะการเป็นผู้นำ ต้องเป็นคนที่สามารถเข้าถึงได้ในทุก ๆ คนทุก ๆ ระดับ ไม่มีอีโก้ ดังนั้น สิ่งที่จะลดอีโก้ตนเองได้นั้น ต้องรู้จักเป็นคนที่สดชื่นยิ้มแย้มแจ่มใสอาจไม่ต้องถึงกับ เป็นคนที่ตลก แต่ต้องทำให้ลูกน้องสบายใจที่จะเข้ามาพูดคุยปรึกษาทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวเพราะเมื่อไหร่ ที่ลูกน้องกล้าที่จะเดินเข้ามาหาผมเชื่อว่า ปัญหาย่อมคลี่คล า ย ไม่ทำให้ปัญหามีผลกระทบต่อคน ๆ นั้น ในระยะย าว ซึ่งหน้าที่ของคนเป็นหัวหน้า ก็ต้องพร้อมแก้ไข ปัญหาร่วมกันดังคำว่า มีสุข คูณ สอง แต่มีทุ ก ข์ต้อง หาร สอง ครับ

5 หัวหน้างานที่ดีต้องรักในงานที่ทำ

พร้อมต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรค ที่เข้ามาคนที่เป็นหัวหน้างาน ต้องมีใจรักในงานที่ทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆเพราะหากเรารักในงานที่ทำใจเราพร้อมยืดหยัดต่อสู้ให้งานนั้นประสบความสำเร็จ ซึ่งเราย่อมต้องถ่ายทอ ดความคิดนี้ สู่ลูกน้องเราเพราะหากลูกน้องเรามีใจรักในงานที่ทำทุกคนเขาย่อมเข้าใจและพร้อมต่อสู้ฝ่าฟั น ปัญหาไปด้วยกัน

6 หัวหน้างานที่ดีต้องหัดเป็นคนที่เปิดใจรับฟังสิ่งต่าง ๆ รอบตัว

การคิดคนเดียวย่อมได้ เพียงมุมเดียว แต่หากเรายอมเปิดใจฟังคนละเล็กละน้อย ข้อมูลในหัวเราย่อมมีมากขึ้นและนั่นย่อมทำให้เราได้ข้อมูลในการ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ก่อนตัดสินใจคนที่เป็นหัวหน้างานต้องกล้าเปิดใจฟังสิ่งต่าง ๆ จากคนรอบข้างเพื่อนำมาปรับใช้ ให้งานเดินหน้าต่อไป ถึงแม้บางครั้งฟังแล้วไม่ใช้ในตอนนี้ แต่ใครจะรู้ว่าอนาคตอาจมีโอกาสหยิบมาใช้ก็ย่อมเป็นไปได้ อย่ างน้องการฟังก็ทำให้เรามีความรู้ที่มาก หากความรู้นั้นเป็นประโยชน์ ยกเว้น ความรู้ที่ไม่เป็นประโยชน์ต้องพร้อมดีดทิ้งในทันที

7 หัวหน้างานที่ดีต้องรู้จักเดินเข้าหาลูกน้อง เดินตรวจสอบการทำงาน

เดินหน้าแก้ไขปัญหา และพาทีมไปสู่เป้าหมายเดียวกัน การทำงาน หากหัวหน้านั่งอยู่บน หอคอยอันส่ งเกียรติอย่ างเดียวแล้วจะรู้ได้อย่ างไรว่างานนั้นเกิดปัญหาจากส่วนไหน อ วั ย ว ะ ใน ร่ าง ก าย ส่วนที่อยู่ต่ำที่สุด นั่นคือ ขาแต่ขาก็ทำให้เราสามารถโยกย้ายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง หากเราใช้ขาในการก้าวเดินเสมือนทำงานย่อมต้องมีเป้าหมายครับการย่ำอยู่กับที่ไม่สามารถขับเคลื่อน ทีมงานไปสู่เป้าหมายได้ ซึ่งการจะไปสู่เป้าหมายได้ก็ต้องกล้าเดิน แต่หากเดินแล้วผิดทาง ย่อมสามารถถอยหลังกลับ มาตั้งหลักได้เสมอคนเป็นหัวหน้างานต้องรู้จักเดินเข้าหาลูกน้อง รู้จักเดินดูหน้างานสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว หากเจอปัญหาก็นำมาแก้ไข ไม่ปล่อยปัญหานั้นให้บานปล า ยอีกทั้งยังทำให้ลูกน้องสามารถสอบถาม หรือขอคำแนะนำจากหัวหน้าได้ในทันที รู้แล้วก็เดินบ้ างนะครับ จะได้แข็งแรง

8 หัวหน้างานที่ดีต้องเป็นคนที่ซื่อสัตย์สุจริตต่องานที่ทำ

ซื่อ กินไม่หมด คดกินไม่นาน เป็นคำกล่าว ที่ผมเห็นด้วยมาก ๆ เพราะคนเราหากไม่ซื่อสัตย์แล้วอยู่ที่ไหนก็ไม่เจริญ กลับกัน หากเราเป็นคนที่ซื่อสัตย์สุจริตอยู่ที่ไหน ใคร ๆก็อย ากร่วมงาน ดังนั้น หัวหน้างานที่ดี ต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริตในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องตนเองเรื่องงาน เรื่องครอบครัว และเรื่องสังคมเพื่อเป็นแบบอย่ างที่ดีให้ลูกน้องต่อไป

9 หัวหน้างานที่ดีต้องสามารถลงมือทำให้ลูกน้องเห็นเป็นแบบอย่ าง

ว่าเราสามารถทำได้ หากพูดอย่ างเดียว แต่ไม่ทำ ใครเขาจะเชื่อครับ เหมือนสุภาษิตที่กล่าวไว้ว่า 100 คำพูดไม่เท่ากับ 1 การกระทำ ผมว่าจริงนะครับพูด แล้ว ทำ ย่อมทำให้ลูกน้องเห็นเป็นตัวอย่ าง เช่น หากเราเป็นคนที่มาทำงานสายเป็นนิจแบบนี้ จะกล่าวตักเตือนลูกน้องที่มาสายก็ย่อมย ากครับที่ลูกน้องจะเชื่อเรามันเข้าตัวแต่หากเรามาเช้าทุกวันแบบนี้ลูกน้อง ก็คงเกรงใจ และไม่กล้ามาสายหรือหากมาสายเราจะเรียกมาคุยเพื่อปรับพฤติกรร ม ลูกน้องคนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ตะขิดตะขวงใจ เพราะเป็นหน้าที่ของเราซึ่งลูกน้องคนนั้น คงไม่กล้าเถียงเพราะลูกพี่เป็นตัวอย่ างที่ดี ในเรื่องที่ลูกน้องทำผิด พูด + ทำ ย่อมมีคุณค่าเสมอครับ

10 หัวหน้างานที่ดีต้องรู้จักใช้ภาษากาย ควบคู่กับคำพูด และน้ำเสียง

ในการทักทายการสื่อส ารแบ่งออ กเป็น 3 แบบ คือ ภาษาพูด ภาษากาย และน้ำเสียงซึ่งหัวหน้างานที่ดีควรนำทั้ง 3 แบบนั้นไปใช้พร้อม ๆ กัน เช่นหากมีลูกน้องที่อายุมากกว่าก็ใช้การทักทาย โดยยกมือไหว้สวัสดีเมื่อลูกน้องคนนั้นเห็น เขาจะเกรงใจเราเนื่องจากเราให้เกียรติ ต่อเขาก่อน เป็นต้น หรือหากเรามีลูกน้องที่อายุน้อยกว่า การไหว้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดเพราะประเทศไทยเราขึ้นชื่อว่า ยิ้มสวย และไหว้ สวยการรักษ าขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ไม่ใช่เรื่องผิดครับ แต่คนที่เห็นเขาจะนำไปยกย่อง และชื่นชมนะครับ เรื่องดี ๆ ทำไปเถอะ !!

11 หัวหน้างานที่ดีต้องเป็นคนตรงต่อเวลา มาเช้า กลับทีหลัง

เรื่องเวลาในการทำงาน นับว่าเป็นเรื่องวินัยของตนเอง ที่ต้องพึงกระทำเพราะทุกองค์กรย่อมมีเวลาเข้าเวลาออ ก ที่ชัดเจน โดยเฉพาะเวลาเข้าก็ควรมาล่วงหน้าอย่ างน้อยสัก 30 นาทีก่อนเริ่มงานเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจวางแผนในการทำงานเพื่อนำข้อมูลมาประชุมลูกน้องก่อนเริ่มงาน จะได้เข้าใจตรงกัน ใครมีข้อสงสัย มีปัญหาก็ควรกันให้เรียบร้อยก่อนเริ่มงาน หากหัวหน้าทำแบบนี้ได้ทุก ๆ วันรับรองปัญหาจะน้อยลงและ ทำให้หัวหน้ามีเวลาไปคิดเรื่องงานให้มากขึ้น ดีกว่ามานั่ง ป วด หัวกับปัญหาคนในทุก ๆ วันครับส่วนการกลับทีหลัง อันนี้ก็สำคัญ เพราะเรามีความรับผิดชอบที่สูงกว่าลูกน้องก่อนกลับก็ตรวจสอบความเรียบร้อยของงาน จดบันทึกข้อมูล ความผิดพลาดความสำเร็จของงานในแต่ละวันเพื่อนำมาประกอบในการพูดคุยกับลูกน้องในเช้าวันถัดไป ครับ

12 หัวหน้างานที่ดีต้องมีความเชื่อมั่นต่อลูกน้อง

และเชื่อมั่นต่อปัญหาว่า ทุกปัญหาย่อมมีทางออ กความเชื่อ นับเป็นจุดเริ่มต้น ในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ โดยเฉพาะหากรับนโยบายจากผู้บริหารมาแล้วไม่มีความเชื่อ การทำงานย่อมทำไปวัน ๆ ทำอย่ างไร้เรี่ยวแรงและทำอย่ างไม่มีความสุขเพราะส มอง ถูกปิดกั้ น เรียบร้อย จากความเชื่อที่คิดว่า ทำไม่ได้และหากหัวหน้าท้อซะแล้ว ลูกน้องย่อมท้อต าม และสุดท้าย ผลงานไม่ได้ก็ถูกผู้บริหารตำหนิอีก คราวนี้ไปกันใหญ่เลยครับ

ดังนั้น ความเชื่อนับว่าเป็นสิ่งสำคัญ ที่เชื่อมทุกอย่ าง แค่เราเปลี่ยนจากคำว่าทำไม่ได้ เป็นเชื่อว่า เป็นไปได้และพร้อมคิดค้นหาวิธีการเชื่อมโยง เพื่อให้งานบรรลุเป้าหมายหากว่าผิดพลาดผมเชื่อว่าเราจะไม่เสียใจ เพราะทำเต็มที่ และพร้อมปรับเปลี่ยนแก้ไขผู้บริหารย่อมเข้าใจเสมอ แต่อย่ าผิดพลาดในเรื่องเดิม ๆ นะครับ แบบนั้นตัวใครตัวมันครับ

13 หัวหน้างานที่ดีต้องเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน

ไม่ยกตนข่มท่านคนที่อ่อนน้อม ถ่อมตน ใคร ๆ ก็รัก ใคร ๆ ก็เอ็นดู คนที่เป็นหัวหน้างานเมื่อมีลูกน้องแล้วก็ต้องเป็นคนที่เข้าถึงง่าย ไม่โอ้อวดว่าเราใหญ่เราเป็นหัวหน้างานอีกทั้ง การประพฤติตนเอง ต่อผู้บังคับบัญช าของเราก็ต้องให้เกียรติท่าน

เสมือนเราเล่นบทบาทของผู้ต ามเพื่อสร้างความไว้เนื้ อ เชื่อใจสร้างคุณค่า แต่ไม่ใช่ประจบสอพอนะครับใช้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ + พฤติกรร ม ที่ดีเหนือฟ้ายังมีฟ้านะครับ การอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นสิ่งที่ควรทำต่อคนรอบข้างทำให้เหมือนกัน ในทุกๆ วัน แบบนี้ ย่อมได้ใจ ทั้งต่อผู้บังคับบัญช าเราและ ผู้ใต้บังคับบัญช า และหากวันหนึ่ง ผู้บังคับบัญช าเรา ชื่นชมมาเราต้องให้เกียรตินั้นต่อ ลูกน้องของเรา มากกว่าตัวเราเพราะงานจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีคนปฏิบัติให้เครดิตต่อลูกน้อง ลูกน้องจะมีกำลังใจทำงานต่อไปกลับกัน หากผู้บังคับบัญช าตำหนิ ในผลงานลงมา หัวหน้างานที่ดี ต้องพร้อมรับแทนลูกน้องและ นำข้อผิดพลาดนั้น มาประชุมกับลูกน้องเพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไปในอนาคต

14 หัวหน้างานที่ดีต้องรู้จักคิดในเชิงป้องกันก่อนลงมือทำ

เหรียญย่อมมี 2 ด้านให้คิด การคิดก็มี 2 ด้านทั้งการคิดบวกและคิดลบซึ่งการคิดบวกเป็นสิ่งที่ดี ทำให้เราหมดทุ ก ข์แต่หากไม่อย ากทุ ก ข์ ก็ต้องคิดลบ แต่เป็นการคิดลบในเชิงของการป้องกัน วางแผน ก่อนลงมือทำหัวหน้างานที่ดีนอ กจากการเปิดใจรับฟังแล้ว

ก็ต้องนำมาข้อมูลมาคิด มาวางแผนซึ่งการวางแผนก็ต้องมีการประชุมเพื่อหาข้อมูลก่อนตัดสินใจเพราะหากเราไม่อย ากเสียเวลาแก้ไขก็ต้องวางแผนให้รอบคอบ รอบด้านแต่การวางแผนเยอะเกินไปก็ทำให้เราไม่กล้าลงมือทำผมยังเชื่อเสมอ คิด วางแผน สำคัญแต่ไม่เท่า ลงมือทำ สำคัญกว่า แต่หาก ไม่คิด ไม่วางแผน แล้วทำอย่ างเดียว แบบนี้เสียเวลาแก้ไขนานโข ครับคิด + วางแผน + ลงมือทำ + กล้ายอมรับผลกับสิ่งที่ทำ = ประสบการณ์และเมื่อมีประสบการณ์แล้ว เราจะเห็นทางสว่างในอนาคตครับ

สรุป ทำดี = ให้เครดิตลูกน้อง ทำผิดพลาด = รับหน้าแทนลูกน้องเสมอครับ

15 หัวหน้างานที่ดีต้องคิดเสมือนเราเป็นเจ้าขององค์กร

รู้จักทำงานเชิงรุกและมีเป้าหมายที่ชัดเจน ในการทำงานการที่องค์กรแต่งตั้ง เราขึ้น มานำคนอื่น ๆ นั้น เขาย่อมเห็นคุณค่าในตัวเราและคาดหวังให้เราช่วยคิด วางแผนในการขับเคลื่อนคน เพื่อให้เกิดผลของงานบรรลุต ามเป้าหมายขององค์กร ดังนั้น คนที่เป็นหัวหน้างาน จำต้องเข้าใจในบทบาท เข้าใจในสิ่งที่องค์กรกำลังก้าวเดิน เข้าใจวิสัยทัศน์พันธะกิจ ขององค์กรและสามารถนำมาเป็นแผนงานที่สามารถเดินหน้าต ามแผนได้ในทุก ๆ วันทุกเรื่องที่กล่าวมา ล้วนเป็น สิ่งที่คนเป็นหัว ต้องนำไปใช้ในการบริหารงานบริหารคน

เพราะ หากคนที่เป็นหัวหน้างานสามารถปฏิบัติได้ครบทุกข้อ คนที่เห็นย่อมเชื่อมั่น เชื่อถือและปฏิบัติต าม โดยเฉพาะคนที่เป็นลูกน้องเพราะหากเขามีหัวหน้างานที่ดีลูกน้องย่อมโชคดีในการทำงานเพราะเขาสามารถเก็บเกี่ยว ความรู้ ประสบการณ์ และคุณธรรมในการนำไปใช้เพื่อวันข้างหน้า หากเขาได้ขึ้นเป็นหัวหน้า ย่อมสามารถการันตี ว่าเขาย่อมเป็นหัวหน้างานที่ดีได้เช่นกัน จากแบบอย่ างที่เคยเจอมาผมเชื่อเสมอครับหากเราจะเปลี่ยนแปลงคนอื่นได้นั้น เราต้องเปลี่ยนแปลงที่ตัวเราก่อนใช้ทั้งคำพูด + การกระทำในการทำให้คนรอบข้างเห็น และนำไปใช้วันนี้ถามตนเองนะครับ เราเป็นสุดยอ ด หัวหน้างานที่ เก่งคิด เก่งงาน เก่งคน เก่งคุณธรรม หรือยังเชื่อผมเถอะ !!

ที่มา d r f i s h.t r a i n i n g, y i n d e e y i n d e e