จงใช้เวลาที่มีกันอยู่ให้คุ้มค่า ไม่รู้ว่าจะได้อยู่ด้วยกันอีกนานแค่ไหน

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆไปเรียนรู้ข้อคิดการใช้ชีวิต กับบทความ จงใช้เวลาที่มีกันอยู่ให้คุ้มค่า ไม่รู้ว่าจะได้อยู่ด้วยกันอีกนานแค่ไหน ไปดูกันว่าทำไมเราถึงควรใช้เวลาที่มีกันและกันอยู่ให้คุ้มค่า

เรื่องก็คือว่า…ในเช้าวันหนึ่ง.. ภรรย าเธอได้บอ กกับสามีของเธอว่า ‘ วันนี้ ฉันจะกลับบ้านไปเยี่ยมคุณแม่ คุณจะขับรถไปส่ งฉันหน่อยได้ไหม ฝนตกหนักแบบนี้ ไปรถโดยส าร มันไม่สะดวกเลย ‘ สามี.. ผู้ซึ่งหน้าต าบู ดบึ้งมาตั้งแต่เช้า ได้ยิน แต่ก็ไม่ตอบภรรย า เขากลับ กระช ากเสียงใส่ แล้วถามภรรย ากลับไปว่า

‘เมื่อวาน เธอซื้ อเสื้อผ้ามาใหม่ใช่มั้ย ?? เธอเคยรับปากฉันไว้แล้วนะว่า จะไม่ใช่เงินฟุ่มเฟือย อย่ าลืมว่าเรายังมีบ้าน มีรถที่ต้องผ่อนอีก ไหนจะ ค่าเรียนลูก ค่าใช้จ่ายเราก็เยอะแยะ.. ทำไมเธอถึงไม่ช่วยกันประหยัด!! ‘ ภรรย าได้ฟัง จึงนิ่งไปสักพัก แล้วก็ได้แต่พูดออ กมาเป็นเสียงเบา ๆ อย่ างคนรู้สึกผิด ว่า ‘ ที่แท้ คุณก็โ ก รธฉันเรื่องนี้นี่เอง ‘ ภรรย า.. ก้มหน้าก้มต าจัดเสื้อผ้าต่อไปแบบเงียบๆ แล้วบอ กสามีว่า

‘ วันนี้ มีรถโดยส ารเข้าเมืองแค่เที่ยวเดียว ฉันคงต้องรีบไปแล้วแหละ คุณไม่ต้องไปส่ งฉันก็ได้ เดี๋ยวฉันจะนั่งรถโดยสารไปเอง ‘ พูดจบ แล้วเธอก็ออ กบ้านไป โดยที่สามีไม่สนใจใยดีหรือถามไถ่อะไรต่อเลย เพราะเขาคงยังโ ก รธเธออยู่มาก พอประมาณครึ่งชั่ ว โมงผ่านไป… สามีได้ยินเสียงเอะอะ บนถนน..จึงรีบออ กไปดู แล้วได้ยินผู้คนตะโกนกันว่า

ฝนที่ตกหนัก เซาะตลิ่งจนสะพานเข้าเมืองได้ข า ดลง และมีรถเมล์คันหนึ่ง ได้ตกลงไปในน้ำด้วย เมื่อสามี..ได้ยินดังนั้น เขารู้สึกตกใจมาก รีบกระโดด ออ กจากบ้านไปทันที เมื่อเขาไปถึงแม่น้ำ.. รถเมล์ที่ถูกเก็บกู้ขึ้น มาจากน้ำ เหลือเพียงซ ากเหล็กและสัมภาระกระเป๋าต่างๆ ของผู้โดยส ารอยู่กระจัดกระจายเต็มไปหมด มีการหามร่ าง ของผู้ เสี ย ชี วิ ต

คนแล้วคนเล่า ขึ้น มาจากแม่น้ำนั้น.. ช ายหนุ่มก็ได้แต่เฝ้ามองหาภรรย าของตน หายังไง ก็ไม่พบเธอเลย เขารู้สึกเสี ยใจแทบข าด เฝ้าคอยถามหน่ วยกู้ภั ยที่ ทำงานอยู่ว่า ‘ เห็นภรรย าผมบ้างไหม เธอใส่เสื้อสีแดง กางเกงสีดำ เห็นเธอมั้ย ?? ‘ ทุกคนได้แต่ส่ายหน้า… แล้วบอ กว่าไม่เห็นเลย พอเวลาผ่านไป จนเกือบเย็น… กู้ภั ยหยุดการทำงาน เพราะไม่มี ผู้ เ สี ย ชี วิ ต ที่ต้องหาแล้ว จึงบอ กช ายหนุ่มว่า

‘ หั กห้ามใจเถอะนะ ภรรย าคุณ คงโดนน้ำพัดไปไกลแล้ว ‘ ช ายหนุ่มเดินคอตกกลับบ้าน เหมือนคนไม่มีวิ ญญ าณ เอาแต่ร้องไห้ไป คร่ำครวญ ไปตลอ ดทาง ในใจของเขาเฝ้าแต่คร่ำครวญว่า ‘ ทำไมๆๆๆ เราไม่ขับรถไปส่ งเธอนะ เราไปด่ าเธอทำไมว่าใช้เงินฟุ่มเฟือย แค่เสื้อตัวเดียว มันจะร า คาเท่าไหร่กัน ‘

แต่เมื่อ กลับถึงบ้าน สิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เขากลับพบว่า… ภรรย าของเขานั่งอยู่ที่โต๊ะอาห าร แถมยังมีอาห ารวางอยู่บนโต๊ะ เต็มไปหมด ในมือของเธอนั้น มีเสื้อ กันหนาวเก่าๆตัวหนึ่ง ซึ่งเธอ กำลังเย็ บซ่ อมช า เสื้อที่กำลังหลุดรุ่ยตั้วนั้นอยู่..

‘ คุณไปไหน มาคะ ? ‘ ภรรย าถามผู้ซึ่งสามี ภรรย ายังพูดไม่ทันจบ สามีก็รีบตรงเข้าไปกอ ดเธอจนแน่น..

‘ คุณเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม .. วันนี้ ฉัน มัวเอาเสื้อไปคืนที่ร้าน เสี ยเวลาอ้อนวอนให้เขา รับคืนไปมากเลย ไปขึ้นรถเมล์ก็ไม่ทัน..อากาศก็จะเริ่มหนาวแล้ว ฉันเลยรื้อเสื้อเก่ามา ซ่อมก็พอใส่ได้อีกหล า ยปีเลยนะคะ ฉันนี่มันแ ย่ จริงๆ ของเก่าก็ยังมี ไปซื้ อของใหม่มาทำไม ‘

และเรื่องนี้ก็สอนให้เรารู้ว่า… เรื่องบางเรื่อง เราอาจโ ก รธจนลืมไปว่า มันไม่สำคัญ เทียบเท่ากับ ‘ ความสุข ‘ ของเราเลยนะ เรื่องบางเรื่อง ไม่สำคัญเท่ากับ ‘ ความสุข ‘ ของคนที่เรารัก.. เรามีเวลาในโลกนี้อย่ างจำกั ด แถมเวลาที่ใช้ร่วมกันก็ยิ่งจำกั ด อะไรที่ไม่สำคัญมากพอ ก็อย่ านำมาเป็นอารมณ์มากมายนักเลย

ที่มา kiadtikun